น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ติดตามประเด็นการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด โอไมครอน (Omicron) อย่างใกล้ชิด ซึ่งต้องขอรอดูข้อมูลอีกครั้ง ถึงจะประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาพรวมเศรษฐกิจไทย เพราะในตอนนี้ยังมีข้อมูลไม่ชัดเจน

เช่นเดียวกับองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ขอเวลาเก็บข้อมูล 2-3 สัปดาห์เพื่อประเมินสถานการณ์และความรุนแรงของโอไมครอน เช่น การแพร่กระจาย ความรุนแรง ผลกระทบที่มี และมาตรการควบคุม จำกัดการแพร่ระบาดว่าจะเป็นอย่างไร โดยธปท.จะทบทวนเศรษฐกิจไทยใหม่ที่จะมองภาพในปี 65 ในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 22 ธ.ค.นี้

ทั้งนี้ในปัจจุบัน ธปท.ได้คาดการณ์เศรษฐกิจไทย หรือจีดีพี ของปี 64 ไว้ที่ขยายตัว 0.7% และปี 65 จีดีพีจะขยายตัว 3.9% ซึ่งยังประเมินไม่ได้ถึงผลกระทบ แต่ถ้าดูในปีนี้ซึ่งเหลืออีกแค่ 1 เดือนคือเดือน ธ.ค. และเศรษฐกิจไตรมาส 3 ออกมาดีกว่าตลาดคาด ทำให้ผลกระทบจากโอไมครอนอาจไม่ได้เยอะมาก แต่จะเป็นปี 65 ที่จะได้รับผลกระทบชัดเจน

สำหรับรายงานเศรษฐกิจไทยในเดือน ต.ค. 64 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดและแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐ ขณะเดียวกันการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นในหลายหมวดสินค้า สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มทยอยปรับเพิ่มขึ้น แต่โดยรวมยังอยู่ในระดับต่ำ

ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นตามภาวะอุปสงค์ที่ฟื้นตัว และปัญหาการผลิตหยุดชะงักที่ทยอยคลี่คลาย ทั้งนี้ การใช้จ่ายภาครัฐยังมีบทบาทสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนลดลงบ้างหลังจากเร่งไปในเดือนก่อน

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นตามราคาผักที่ผลผลิตได้รับผลกระทบชั่วคราวจากสถานการณ์น้ำท่วม และราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ด้านตลาดแรงงานยังคงเปราะบาง แม้ปรับดีขึ้นบ้างตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลน้อยกว่าเดือนก่อน ตามดุลรายได้ บริการ และเงินโอนที่ขาดดุลน้อยลง