เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงข้อสังเกตที่ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน อาจมีผลต่อการจัดรูปแบบการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในปี 2565 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพว่า ตอนนี้ยังอีกไกล และต้องติดตามจะมีการจัดการเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้อย่างไร รวมถึงต้องติดตามอย่างต่อเนื่องว่าการระบาดดังกล่าวในอนาคตจะเป็นอย่างไรซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น แม้จะพบว่ามีเชื้อดังกล่าวเข้ามาแต่อาจไม่ลุกลาม ดังนั้นตอนนี้เราอย่าเพิ่งไปกังวล และยืนยันไทยมีแผนสำรอง กรณีเกิดสถานการณ์ต่างๆ โดยจากนี้ไปต้องดูภาพใหญ่ว่าพัฒนาการของสถานการณ์ต่างๆ เป็นอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าในช่วงเวลาจากนี้ไปจะมีบุคคลสำคัญจากต่างประเทศเดินทางมาประเทศไทยหรือไม่ นายดอน กล่าวว่า “จะมีเข้ามาอีกจำนวนมาก” เมื่อถามถึงข่าวที่ว่านายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา จะเดินทางมาเยือนประเทศไทย นายดอน กล่าวว่า “เขาจะเดินทางมาภายในเดือนนี้ ขอให้ติดตาม ทั้งนี้ บุคคลสำคัญของต่างประเทศจะทยอยเดินทางเข้ามากันเรื่อยๆ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ใครๆ ก็อยากเดินทางเข้ามาสร้างปฏิสัมพันธ์ ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแต่เรื่องที่แปลกคือกรณีที่มีคนไปหยิบยกเรื่องบางเรื่องมาบิดเบือนให้เกิดประเด็นขึ้นมา ประเทศไทยไม่ควรมีปัญหา ถ้าไม่มีปัญหาชีวิตของพวกเราจะดีขึ้นเพราะจะเกิดทั้งเสรีภาพและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อยากให้ทุกคนช่วยกันอย่าทำให้ประเทศเรามีปัญหา เพราะการที่มีคนเอาเรื่องไปบิดเบือนและออกข่าวให้เป็นประเด็นนั่นจะทำให้ประเทศมีปัญหา ซึ่งมันเปล่าประโยชน์ แต่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบ้านเมืองเราคือนิ่งๆ ไม่สร้างปัญหา แล้วช่วยกันเดินหน้าพัฒนาประเทศต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง”.