เมื่อวันที่ 28 ม.ค. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะลงพื้นที่สำรวจประตูระบายน้ำและเขื่อนคลองประเวศบุรีรมย์ ภายในเขตประเวศ โดยนายสุชัชวีร์ กล่าวเสนอแนวคิดเปิดพื้นที่คลองประเวศบุรีรมย์ในการป้องกันน้ำท่วมได้ และใช้เป็นเส้นทางโดยสารทางเรือ แบ่งเบาปัญหาจราจรภายในถนนอ่อนนุช พร้อมกับใช้คลองดังกล่าวเป็นเส้นทางเชื่อมต่อเช็กอินสนามบินสุวรรณภูมิ และหวังใช้สร้างเศรษฐกิจชุมชนผ่านเส้นทางการท่องเที่ยว โดยคลองประเวศฯ มีความยาวกว่า 40 กิโลเมตร (กม.) เชื่อมต่อคลองพระโขนงไปถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งในอดีตเป็นคลองสำคัญฝั่งตะวันออก รองรับเกษตรกรรม แต่ปัจจุบันไม่สามารถใช้สัญจรทางน้ำได้ เพราะมีประตูระบายน้ำ 2 จุด ที่วัดกระทุ่มเสือปลา และที่วัดลาดกระบัง ส่งผลให้การสัญจรจากกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก เข้าสู่เมืองต้องใช้ถนนอ่อนนุชเป็นหลัก ซึ่งมีสภาพจราจรแออัดเป็นประจำ

นายสุชัชวีร์ ยังกล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาน้ำท่วมในเขตลาดกระบัง และพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ว่าปัญหาเกิดจากการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำ เพราะเป็นการกั้นน้ำจากเขตมีนบุรี หนองจอก และคลองสามวา จนทำให้น้ำท่วมลาดกระบัง 2 สัปดาห์ จึงต้องพิจารณาจุดที่ตั้งของประตูระบายน้ำ 2 จุดที่อยู่ในคลองประเวศฯ ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่ อีกทั้งควรติดตั้งประตูระบายน้ำอัตโนมัติที่คลองแขนงหลายแห่งเพื่อกั้นไม่ให้น้ำทะลักเข้าบ้านของประชาชน และทำให้น้ำไหลไปสู่สถานีสูบน้ำพระโขนงแล้วลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้เร็วที่สุด และการแก้ปัญหาเรื่องประตูระบายน้ำดังกล่าว จะเปิดพื้นที่ใหม่สำหรับการสัญจรทางเรือให้คนกรุงเทพฯ และสามารถเปิดเป็นเส้นทางท่องเที่ยวแบบ 1-day itinerary drop-off เพราะอยู่ใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อีกทั้งยังเปิดเป็นสถานที่เช็กอินกระเป๋าเดินทางทางน้ำได้ด้วย ซึ่งจะเป็นการสร้างเศรษฐกิจชุมชนได้อีกทาง

“ผมอยู่แถวนี้ ผมรู้ทางนี้ดี จึงอยากเปิดพื้นที่คลองประเวศบุรีรมย์ให้ป้องกันน้ำท่วมได้ และเป็นพื้นที่โดยสารทางเรือ แบ่งเบาภาระถนนอ่อนนุช และใช้คลองประเวศเป็นเส้นทางหลักเชื่อมต่อไปเช็กอินสนามบินสุวรรณภูมิได้ หน้าที่ผู้ว่าฯ กทม. เป็นเรื่องทางเทคนิค ถ้าเราไม่เข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง จะถูกเขาหลอกเอาได้ ผมมั่นใจว่าเราสามารถเปิดพื้นที่ทางน้ำใหม่ และช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมเขตประเวศ เขตลาดกระบัง จนถึงมีนบุรีได้ มั่นใจเหลือเกินว่าเปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้” นายสุชัชวีร์กล่าว.