จากกรณีที่ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ. 9 ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ รอง ผบช.ภ.9 ให้เป็นประธานในการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งรวบรวมหลักฐานการทุจริตการสอบเข้ารับราชการเป็นนายสิบตำรวจของ บช.ภ.9 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เร่งรวบรวมพยานหลักฐานทุจริตสอบนายสิบตร. บช.ภ.9 ส่งกก.สอบสวนข้อเท็จจริง
ฉาวโฉ่อีก! สอบเข้านักเรียนนายสิบ บช.ภ.9 รุ่น 2 พบทุจริตมีขบวนการใหญ่เบื้องหลัง

คืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ได้เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าว เพื่อป้องกันความสับสนของข่าวการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการเพื่อเข้าไปเป็นตำรวจระดับนายสิบของศูนย์บังคับการฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 9 (ศฝร.ภ.9) ว่า เรื่องที่เกิดการทุจริตในการสอบ เป็นการสอบเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 65 ส่วนการสอบเข้าเป็นนายสิบตำรวจครั้งล่าสุด เมื่อเดือน พ.ย. มีการประกาศผลสอบเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 65 ไม่ได้เกี่ยวกับการทุจริตที่เป็นข่าวอยู่

พล.ต.ท.นันทเดช กล่าวต่อว่า เรื่องการทุจริตในการสอบเมื่อวันที่ 27 มี.ค. นั้น หลังจากที่มีผู้จ่ายเงินให้กับนายหน้าเพื่อซื้อข้อสอบ และกลุ่มผู้จ่ายเงินที่สอบไม่ได้ ได้มีการแจ้งความที่ สภ.เมือง จ.สงขลา ก็ได้มีการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง ทั้งจากภาค 9 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนได้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง ว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นจริง มีการสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่เป็นผู้จ่ายเงิน ผู้รับเงิน เจ้าหน้าที่ของศูนย์บังคับการฝึกอบรม และเจ้าหน้าที่หน่วยคุมสอบทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตครั้งนี้ โดยได้มีการสั่งให้ผู้เข้าสอบทั้งหมด ที่มีหลักฐานเชื่อได้ว่ามีการทุจริตจำนวน 118 คน พ้นจากการเป็นนักเรียนนายสิบไปแล้ว ส่วนในการสอบนายสิบครั้งล่าสุด และมีการประกาศผลไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ยังไม่มีการการร้องเรียนว่ามีการทุจริตในการสอบ เพราะได้มีการสั่งให้มีการเข้มงวดในการสอบครั้งนี้ เนื่องจากผลการสอบเมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่มีการทุจริต ผลการสอบพบว่า เป็นการทำเป็นขบวนการ ทั้งโรงเรียนกวดวิชา ทั้งกลุ่มนายหน้า และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการสอบ

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะกรรมการที่ทำการสืบสวนสอบสวนในเรื่องนี้ ว่า ในการสอบเข้ารับราชการตำรวจระดับนายสิบทุกครั้ง จะมีแก๊งที่เป็นนายหน้า ในการติดต่อกับผู้เข้าสอบ โดยมีการนำบัญชีรายชื่อผู้เข้าสอบ จากเจ้าหน้าที่ใน ศฝร.ภ.9 ไปทำการศึกษา และติดต่อกับผู้สอบที่มีฐานะดี และเสนอการช่วยให้สอบได้ ด้วยการเรียกรับเงินวิ่งเต้น ซึ่งอ้างว่าเป็นการซื้อคำเฉลยข้อสอบ ตั้งแต่ 200,000-500,000 บาทต่อราย แต่ที่ไม่มีข่าว เพราะผู้จ่ายเงินไม่ออกมาเปิดเผยเหมือนกับครั้งนี้ ที่มีผู้จ่ายเงินแล้ว สอบไม่ได้ จึงออกมาแจ้งความ

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่า ผู้เข้าสอบนายสิบมีการได้รับการติดต่อจากกลุ่มของนายหน้า ซึ่งขณะนี้มีหลายคนที่ถูกเรียกมาสอบสวน และได้รับสารภาพแล้วว่า เป็นผู้รับเงินจากผู้เข้าสอบจริง และเจ้าหน้าที่มีหลักฐานการโอนเงินจากผู้เข้าสอบเข้าบัญชีของคนทั้ง 2 ซึ่งเป็นพยานวัตถุ ที่มีน้ำหนักในการดำเนินคดีตามกฎหมายได้แล้ว ส่วนผู้เกี่ยวข้องรายอื่นๆ ที่อยู่ในขบวนการเดียวกัน มีหลักฐานการติดต่อกับผู้เข้าสอบเพื่อเรียกรับเงิน ที่เชื่อมโยงกันทั้งหมด ขณะนี้รอเพียงให้ ศฝร.ภ.9 ที่เป็นเจ้าทุกข์ แจ้งความดำเนินคดี ก็จะขอให้ศาลออกหมายจับได้ทั้งหมด

นายตำรวจผู้อยู่ในคณะกรรมการสอบสวน ยังให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า ในสอบการสอบสวน เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของ ศฝร.ภ.9 ที่มีหน้าที่ในการรับกล่องข้อสอบจากส่วนกลาง ดูแลรักษา และควบคุมการสอบ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ประจำสนามสอบ ที่พบว่ามีการทุจริต ได้มีการเรียกมาทำการสอบสวนหมดทุกนาย ซึ่งพบว่ามีหลักฐานในการเชื่อมโยงในการทุจริตคือเงินในบัญชีที่มีการโอนจากกลุ่มคนที่รับเงินจากผู้เข้าสอบ คือ ร.ต.อ.หญิง นายหนึ่ง ตำแหน่ง รอง สว. ใน ภ.9 ซึ่งมีการรับโอนเงินจากกลุ่มผู้รับเงินจากผู้เข้า และมีนามสกุลที่เหมือนกับผู้เรียกรับเงินบางคน ได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้วถึงเส้นทางการเงิน ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้รีบเรียกเงินจากผู้เข้าสอบในครั้งนี้ ซึ่งหนีไม่พ้นความผิดในการร่วมกันทุจริต ส่วนนายตำรวจระดับ พ.ต.ท. อีกคน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างหาจุดเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ทำผิดกลุ่มแรก ที่มีหลักฐานในการเอาผิดที่ชัดเจน

ทั้งนี้ จากหลักฐานของการสอบสวน พบว่า กลุ่มผู้เรียกรับเงินเพื่อขายผลเฉลยข้อสอบครั้งนี้ มีการโอนเงินระหว่างผู้เข้าสอบกับผู้รับเรียกเงิน ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 54