จากกรณีที่ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ แถลงผลการจับกุม 2 ผู้ต้องหาที่หลอกขายโทรศัพท์มือถือให้ น้องก้อง อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จนทำให้น้องเกิดความเครียดเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต โดยผู้ต้องหาทั้งสองอ้างว่ารับจ้างเปิดบัญชีให้ น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี นายทุนที่เปิดร้านค้าออนไลน์ มีผู้ติดตามประมาณ 60,000 คน มีพฤติกรรมชอบใช้ของแบรนด์เนมใช้ชีวิตหรูหรา ซึ่งเงินส่วนใหญ่ที่ได้มาก็มาจากการฉ้อโกงผู้อื่น ทั้งยังเคยต้องคดีความผิดในลักษณะเดียวกันนับไม่ถ้วน
‘2เสือสาว’รับแค่เปิดบัญชีหลอกขายมือถือจน ม.2 เครียดสิ้นใจ ชี้ตัวการยังลอยนวลใช้ชีวิตอู้ฟู่
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 26 ก.ย. พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.สอท.2 กล่าวว่า ทาง พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนของบช.สอท. ลงพื้นที่หาข่าวในการติดตามตัว น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ มาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งขณะนี้จากการข่าวพบว่ายังคงหลบหนีอยู่ในประเทศ ทั้งนี้ ทางชุดอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตามจับกุม สำหรับสำนวนคดีทาง พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ได้เน้นย้ำให้ชุดทำงานดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานในรัดกุมก่อนส่งให้อัยการสั่งฟ้อง และประสานปปง.เพื่อยึดอายัดทรัพย์ด้วย
ขณะที่การขยายผลพบว่า มีผู้เสียหายจากหลายท้องที่ได้มาร้องทุกข์ต่อ บช.สอท. เพิ่มเติม กว่า 37 ราย ในจำนวนนี่มีสองรายในพื้นที่ สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ บก.สอท. 2 โดยทาง บก.สอท.ได้ประสานกับทางพนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี เบื้องต้นแล้ว และนำมาสู่การขออำนาจศาลจังหวัดราชบุนีออกหมายจับ น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ เพิ่มเติมอีก 2 หมายจับ ในฐานความผิด ฉ้อโกงประชาชนและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 (1) ด้วย
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในราชกิจจานุเบกษา ได้มีการเผยแพร่ประกาศพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. เรื่องให้ผู้เสียหายยื่นคาร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน ด้วย คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 9/2564 เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ กับพวก 10 รายการ พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับแต่วันที่ คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ
อาศัยอานาจตามความในข้อ ๔ แห่งระเบียบคณะกรรมการธุรกรรมว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิ ของผู้เสียหายในความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2559 จึงขอให้ผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายในทางทรัพย์สินจากการกระทำความผิดดังกล่าวข้างต้น และไม่อาจดำเนินการเพื่อขอคืนทรัพย์สินหรือชดใช้คืนความเสียหายดังกล่าวได้ตามกฎหมายอื่น หรือดำเนินการตามกฎหมายอื่นแล้วแต่ไม่เป็นผล ยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียด แห่งความเสียหายและจำนวนความเสียหายที่ได้รับ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงาน ปปง. ภายใน กำหนดเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ การดำเนินการยื่นคำร้อง ดังรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้ ประกาศ ณ วันที่ 17 กันยายน พ.ศ.2564 พ.ต.ท.ธีรพงษ์ ดุลยวิจารณ์ หัวหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่สานักงาน ปปง.