ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า ตลอดปี 2564 GC สร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจและความยั่งยืนใน 3  ประเด็นหลัก ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ด้านสังคม นับตั้งแต่การระบาดของไวรัสโควิด19 ระลอกแรกจนถึงปัจจุบัน GC ได้ให้ความช่วยเหลือสังคมร่วมกับพันธมิตร ด้วยการนำนวัตกรรมมาพัฒนาและต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกคุณภาพครบวงจร อาทิ เสื้อกาวน์ป้องกันการติดเชื้อ (PPE) เตียงสนามสำหรับผู้ป่วย ถุงขยะและถังขยะป้องกันการติดเชื้อส่งมอบให้โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ นับเป็นการสนับสนุนที่สร้างนวัตกรรมโดยคนไทย เพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 เพิ่มพื้นที่ปลอดภัยให้ทุกคน

ด้านสิ่งแวดล้อม  GC เห็นความสำคัญของปัญหาภาวะโลกร้อน จึงประกาศความมุ่งมั่น ‘Together To Net Zero’ กำหนดแผนงานที่ชัดเจนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง 20% ภายในปี 2573 เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (N¬¬et Zero) ภายในปี 2593 ตามข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ ยังวางแผนที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ลดลง 50% เพื่อให้คู่ค้าและลูกค้าของ GC เข้ามามีส่วนในความมุ่งมั่นนี้ร่วมกัน

ขณะเดียวกันยังพัฒนานวัตกรรมเป็นทางเลือกใหม่ในการไปจับจ่ายซื้อของ คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติก เช่น ถุงช้อปปิ้ง หลอด กล่องและแก้วกระดาษ  เคลือบไบโอ PBS ทั้งหมดย่อยสลายได้  เป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง โดยดูที่ฉลาก GC Compostable หรือฉลากผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานรองรับ ASTM D6400, EN 13432 , ISO17088 , มอก.17088-2555 เตรียมพร้อมที่ประเทศไทยจะใช้มาตรการยกเลิกการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติก ชนิดใช้แล้วทิ้ง 4 ประเภท ในปี 2565 คือ ยกเลิกใช้ถุงหูหิ้วขนาดน้อยกว่า 36 ไมครอน กล่องโฟม แก้วพลาสติกแบบบางใช้ครั้งเดียว และหลอด  นอกจากนี้ ยังพร้อมแสวงหาเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำรูปแบบใหม่เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของเทคโนโลยีในปัจจุบัน

ด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้ธุรกิจมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล GC มีแผนกลยุทธ์สำคัญ 3 Steps คือ Step Change, Step Out และ Step Up

Step Change คือ การรักษามาตรฐานการผลิต เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ขณะเดียวกันก็ต่อยอดขยายธุรกิจเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งเน้นสร้าง High Value Business เพื่อเพิ่มมูลค่า

Step Out คือ การตั้งเป้าเติบโตในระดับสากล และต่อยอดเข้าสู่ธุรกิจใหม่ผ่านทาง M&A เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดและโอกาสการเติบโตในต่างประเทศ โดย GC ได้ซื้อกิจการ allnex  ซึ่งมีผลกำไรที่ดี และยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มสารเคลือบและสารเติมแต่งสำหรับใช้กับวัสดุทุกประเภท เช่น ไม้ เหล็ก พลาสติก เป็นต้น รวมถึงเป็นผู้นำในการนำเสนอโซลูชั่นการพัฒนาแอพพลิเคชันการเคลือบต่างๆ ครอบคลุมการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ เหล็ก ยานยนต์ และบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น

การซื้อกิจการ allnex เป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ GC ในการเป็น “เคมี…ที่เข้าถึงทุกความสุข” เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของ GC ควบคู่กับการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยการลงทุนในนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง   

Step Up คือ สานต่อความมุ่งมั่นในการสร้างองค์กรที่ยั่งยืน ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน ด้วยผลสำเร็จของความยั่งยืนในด้านต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ GC เป็นบริษัทปิโตรเคมีแรกของไทยที่ติดอันดับ 1 ของโลก จากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) 3 ปีซ้อนในกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ ด้วยการดำเนินธุรกิจที่บูรณาการความยั่งยืน การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีเสถียรภาพ ซึ่งเกิดจากการวางรากฐานความยั่งยืนอย่างเป็นระบบ

การดำเนินงานของ GC ที่ผ่านมา GC มุ่งมั่นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับคนไทย สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆเพื่อผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อชีวิตประจำวันและสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งดำเนินธุรกิจที่ดีตั้งแต่กระบวนการผลิต เพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายสังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs (Sustainable Development Goals ) ของสหประชาชาติ