กรณีที่การท่องเที่ยวกำหนดจัดกิจกรรมวิ่งเทรลเขาบรรทัด จ.พัทลุง ในระหว่างวันที่ 12-13 ก.พ. 65 จนเกิดการถกเถียงกันถึงความเหมาะสมในเส้นทางวิ่งที่ผู้จัดกำหนดวิ่งขึ้นไปสู่ยอดเขาล่อน กลางป่าเทือกเขาบรรทัด ซึ่งระบุว่าเป็นแหล่งที่อยู่อ่ศัยของสัตว์ป่าหายากหลายชนิด โดยเฉพาะสมเสร็จที่ยังหลงเหลือและหากินอยู่กลางป่าเขาบรรทัด เมื่อมีการจัดวิ่งเทรลระยะ 30 กม.และ 60 กม.ขึ้นไปถึงแหล่งที่อยู่ของสัตว์ป่าอาจจะดูไม่เหมาะสมและมีการเรียกร้องให้ให้ผู้จัดยื่นเรื่องขออนุญาตให้ถูกต้องหรือกำนดเส้นทางวิ่งใหม่นั้น

คืบหน้าเมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ห้องประชุมสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์ป่าเขาบรรทัด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมหารือเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวมีทั้งร้านอาหารและที่พักในพื้นที่ ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขอสนับสนุนการจัดกิจกรรมวิ่งเทรลในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด โดยให้เหตุผลว่าจะสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นและมีการเตรียมการไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่ล่าสุดนางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีหนังสือด่วนลงวันที่ 9 ก.พ. มาถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด สรุปใจความสั้นๆ ไม่สมควรจัดกิจกรรมวิ่งเทรลในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ซึ่งนายปรีชา เฟื้องคง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด กล่าวว่า เมื่อมีหนังสือมาจากกรมอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้จัดกิจกรรมในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ทางผู้จัดจะต้องไปแก้ปัญหากันเองและจะไม่ยอมให้วิ่งเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งก่อนหน้านี้ป่าก็ปิดตามประกาศของกรมอุทยานฯ และจะมีกำหนดเปิดในวันที่ 11 ก.พ.นี้ แต่จะเปิดป่าได้หรือไม่ก็ยังไม่ทราบ ทางผู้จัดวิ่งจะต้องปรับเส้นทางใหม่

แหล่งข่าวจากทีมงานเตรียมความพร้อมจัดวิ่งเทรลรายหนึ่ง เผยว่า ชาวบ้านที่ได้รับมอบหมายในการอำนวยความสะดวกแก่นักวิ่งที่จะต้องขึ้นไปประจำจุดอยู่บนเขาบรรทัด บางจุดก็ได้นำข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น มีการกางเต็นท์กองกลาง เต็นท์พยาบาล เต็นท์กู้ภัย ที่จุดพักทับดาน ทับเรียน และหนานญี่ปุ่น จุดละ 3 เต็นท์ รวมทั้งอุปกรณ์ปรุงอาหาร น้ำดื่มไว้บริการนักวิ่งขึ้นไปเก็บไว้ตามจุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อไม่สามารถจัดกิจกรรมได้ ผู้จัดจะต้องจ้างชาวบ้านขึ้นไปนำกลับลงมา โดยล่าสุดทางผู้จัดได้สั่งให้ชาวบ้านช่วยกันเก็บริบบิ้นที่ผูกนำทางไว้ในป่าระยะวิ่ง 60 กม.ลงกลับมาบ้างแล้ว เพื่อนำไปใช้ผูกตามเส้นทางที่จะกำหนดขึ้นมาใหม่ โดยเริ่มเก็บจากจุดต้นไทรทางข้ามน้ำลงมาถึงน้ำตกปากราง ระยะทางประมาณ 4 กม. ส่วนที่เหลือยังผูกไว้ในป่าและจะต้องเดินขึ้นไปเก็บเพื่อไม่ให้มีริบบิ้นผูกทิ้งไว้กลางป่า.