ตั้งแต่เกิดจนอายุ 50 ปี ทราบดีว่ากัญชาเป็นยาเสพติด แม้วิถีชีวิตคนต่างจังหวัดบางกลุ่ม บางคน จะแอบปลูกต้นกัญชาปะปนไว้ในไร่ ในสวน เพื่อปลูกไว้แอบขาย เอาไว้สูบเอง และมีการรวมกลุ่มสูบกัญชาตามงานต่าง ๆ
หลายคนที่รู้จัก ถูกตำรวจจับกุมเพราะปลูกกัญชา เสพกัญชา แต่ผ่านไป 1-2 วัน ก็ออกมาใช้ชีวิตตามปกติ เป็นเพราะกัญชาถูกจัดอยู่ในยาเสพติดประเภท 5 โทษจึงเบา! ไม่เหมือน “ยาบ้า” ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 1 อันนี้โทษหนัก
พอมีข่าวพรรคภูมิใจไทยของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข “ตีปี๊บ” เรื่องปลูกกัญชาบ้านละ 6 ต้น ด้วยการปลดล็อกไม่ให้กัญชาเป็นยาเสพติดอีกต่อไป ตามนโยบาย “กัญชาเสรี” แม่ของผมพูดขึ้นมาทันที ว่าอีกหน่อยจะมีแต่ “คนขี้เกียจ” เพราะคงสูบกัญชากันทั่วไปหมด มีแต่คนเมากัญชา เมาจนลุกไม่ขึ้น นอนเลื้อยไม่ต้องทำงานทำการกันหรอก!
พอมาดูข้อมูลเกี่ยวกับ “กัญชา” มีสารออกฤทธิ์สำคัญ คือ เตตราไฮโดรแคนนาบินอล (THC) มีฤทธิ์ต่อสมอง ควบคุมความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมของผู้เสพ ทำให้ผู้เสพมีอาการคล้ายเมาสุรา เมื่อเสพจะต้องการปริมาณที่มากขึ้น ทำให้ความคิดความอ่านช้า สับสน ประสาทหลอน โดยเฉพาะการเสพกัญชาด้วยการสูบเพียง 4 มวน เท่ากับการสูบบุหรี่ 20 มวน และเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดมากกว่าการสูบบุหรี่ถึง 5 เท่า
แต่เขาพูดกันว่ากัญชามีทั้งคุณ และโทษ ในมุมที่เป็นคุณคือใช้รักษาโรค ช่วยให้นอนหลับ หลับลึก นำไปทำเป็นเครื่องดื่ม และใส่อาหารก็อร่อย แต่ตอนนี้พ่อแม่ผู้ปกครองห่วงปัญหาแพร่ระบาดเป็นอย่างมาก กลัวลูกหลานในวัยเรียนจะแอบสูบกัญชา พี้กัญชาจนเสียผู้เสียคน เมื่อติดกัญชาแล้วจะต่อยอดไปยังยาเสพติดชนิดอื่นที่แรงกว่า เนื่องจากกัญชาหาง่าย
สมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แถลงจุดยืนมาแต่ไหนแต่ไรว่า คัดค้าน พ.ร.บ.กัญชง กัญชาเสรี ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. สั่งห้ามไม่ให้นำกัญชาเข้ามาในบริเวณโรงเรียนสังกัด กทม. ห้ามขายน้ำ ขายอาหารผสมกัญชา แถมยังสั่งเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้มงวดกวดขันในพื้นที่โดยรอบโรงเรียน เพื่อไม่ให้นักเรียนไปยุ่งเกี่ยวกับกัญชา รวมทั้งโรงเรียนสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ก็ห้ามนำกัญชาเข้าไปในบริเวณโรงเรียนเช่นกัน
หน่วยงานราชการหลายแห่งประกาศชัดเจน ไม่ให้นำกัญชาเข้าไปในสถานที่ราชการ เพราะถ้ามีข้าราชการแอบสูบกัญชามันจะยุ่ง! รวมทั้งร้านขายอาหาร-เครื่องดื่มผสมกัญชา ต้องปิดป้ายแจ้งเตือนด้วย เนื่องจากคนกินอาหาร-เครื่องดื่มผสมกัญชา ไม่ได้รู้สึกว่าอร่อยกันทุกคน แต่บางคนอาจจะมีอาการแพ้!
คงมีแต่บริเวณอาคารรัฐสภาเท่านั้น จู่ๆ มีกัญชานับร้อยต้นเข้าไปปลูกอยู่ในนั้น ไม่ทราบว่าใครเอาเข้าไปปลูก เช็กจากกล้องวงจรปิดได้ไม่ยาก ปลูกไว้เพื่อการแพทย์ หรือปลูกไว้เพื่อนันทนาการกันแน่?
เมื่อวันที่ 25 ก.ค.65 แพทย์ประจำบ้าน แพทย์ประจำบ้านต่อยอด อาจารย์แพทย์ และศิษย์เก่าคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ร่วมกันเข้าชื่อ 851 คน ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ปิดสภาวะกัญชาเสรีในช่วงสุญญากาศทันที เนื่องจากยังไม่มีนโยบายควบคุมกัญชาอย่างครอบคลุมและปลอดภัย จึงมีการใช้กัญชาอย่างเสรีในเชิงนันทนาการอย่างแพร่หลาย นำไปสู่การเข้าถึงการใช้กัญชาของเด็กและเยาวชน ผิดจากเหตุผลการออกนโยบายกัญชาเสรีที่รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องกล่าวอ้างว่า ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์มากขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควรแตะเบรกนายอนุทินบ้าง! อย่าเกรงนายอนุทินถอนตัว อย่ากลัวเที่ยวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะไม่ร่วมรัฐบาล เพราะถึงอย่างไร “ประยุทธ์-อนุทิน” ต้องอยู่กันไปจนชั่วฟ้าดินสลายอยู่แล้ว แต่ปัญหาใหญ่คือกัญชายังเป็นยาเสพติดที่หาง่าย และกัญชาคือภาพลักษณ์ “ด้านมืด” ที่สังคมโลกมองประเทศไทยในเวลานี้!!
—————————–
พยัคฆ์น้อย
