ช่วงนี้ เห็นฝ่ายตำรวจนำโดย “บิ๊กแจง” พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.ปอท.) ดูจะมีแอ๊คชั่นผลงานมากมาย โดยเฉพาะการล่าตัวอีพวกพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ขายของไม่ตรงปก หรือโกงเงินคน ซึ่งคดีที่น่าสะเทือนใจคือมีเด็กที่โดนนางแม่ค้าชื่อ “พิยดา ทองคำพันธ์” หลอกขายมือถือ แล้วไม่ส่งของมา เด็กก็หวังเอาไปใช้เรียนออนไลน์ เครียดจนเส้นเลือดในสมองแตก

สืบไปสืบมานางแม่ค้านี้ถือว่าเป็น “ตัวจี๊ด” คือตั้งตัวเป็นมิจฉาชีพตั้งแต่อายุยังไม่เท่าไร ข่าวว่ามีการจ้างคนเปิดบัญชีซื้อขายออนไลน์ไม่ใช้ชื่อตัวเองหรือที่เรียกว่า “บัญชีม้า” (ซึ่งต้องเตือนกันว่า ใครมาจ้างเปิดบัญชีแบบนี้ อย่าไปทำให้เห็นแก่เงินไม่กี่อัฐฬส เพราะจะกลายเป็นขบวนการอาชญากรรมไปด้วย) แล้วก็มี“แอคเคานท์ม้า” ที่ช่วยกันปั่นเชียร์ว่าแม่ค้าดีอย่างโน้นอย่างนี้ สินค้าดี ส่งของไว แล้วแต่หน้าม้าจะปั้นเรื่อง

กรณีฉ้อโกงออนไลน์นี้ ขอให้ “บิ๊กแจง” จัดการให้เด็ดขาด เพราะมีเยอะเหลือเกิน ที่เห็นเป็นเงินเล็กน้อยไม่กี่ร้อย ไม่อยากเสียเวลาเอาความก็มาก แต่ถ้าเหยื่อคิดแบบนั้นมิจฉาชีพจะได้ใจ ไม่กี่ร้อยหลายๆ คนก็รวมกันได้เงินเยอะ ดังนั้น ถ้าเจอต้องแจ้ง และเรื่องโกงซื้อของออนไลน์นี่ ถ้าตำรวจ (ลามไปถึง ปปง.ยึดทรัพย์ได้) ทำงานเร็ว จัดการคนโกงเด็ดขาด สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ตำรวจได้ เพราะคนไทย 1.ใช้ชีวิตกับโลกออนไลน์เยอะ 2. เกลียดคนโกง

 เรื่องจัดการฉ้อโกงออนไลน์ ยังไงประชาชนก็เสียงไม่แตก คือต้องกระทืบให้ราพณาสูรให้หมด แต่สิ่งที่ “บิ๊กแจง” ทำแล้วเกิดเสียงแตก คือกรณีเรื่อง “ของโป๊ออนไลน์” ที่ “บิ๊กแจง” ก็ไปไล่จับผู้ผลิตหนังโป๊นามแฝง “น้องไข่เน่า” ที่ถ่ายงานลง onlyfans ขาย แล้วทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต ทางโฆษก ตร. แถลงกันเรื่องมิติศีลธรรม พร้อมเตือนให้ใครที่คิดจะทำหนังโป๊เลียนแบบช่วยคิดถึงอนาคตตัวเองด้วย เกิดมีหน้าที่การงานที่ดี “ผีอดีต” จะไม่กลับมาหลอกหลอน

หลายคนคงเพิ่งรู้จัก onlyfans จากกรณีน้องไข่เน่า มันคือเว็บไซต์สัญชาติอังกฤษ ที่ให้มีผู้ผลิตเนื้อหานำเนื้อหาไปโพสต์ เป็นภาพนิ่งหรือคลิปก็แล้วแต่ ซึ่งผู้ผลิตเนื้อหาสามารถเสนอเนื้อหาแบบฟรีก็ได้ เก็บเงินค่าเข้าชมก็ได้  ตามมาตรฐานแบบอังกฤษที่เขามีแนวทางป้องกันเยาวชนเข้าถึงสื่อลามก คือ “คนที่จะจ่ายค่าเข้าชมเนื้อหาที่เก็บเงิน ต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น” ทำนองว่า คนถือบัตรเครดิตคือพวกที่บรรลุนิติภาวะทำงานแล้ว

เจ้าของ onlyfans เขาก็อ้างว่า เขาไม่ได้เปิดแพลทฟอร์มมาขายของโป๊ มันเป็นแพลทฟอร์มสำหรับพวกศิลปินอิสระอะไรแนวๆ นี้มากกว่า ที่มาโชว์ผลงานร้องรำทำเพลงอะไรว่าไป แล้วมีคนสนับสนุนผลงาน ไม่ให้เป็นศิลปินแล้วต้องไส้แห้ง โดยจ่ายค่า subscribe หรือ ค่าอุดหนุน ซึ่งมันจะคิดเป็นรายเดือน ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องต่ออายุ …แต่อนิจจาเอ๋ย ดูเหมือนเจตนารมณ์ที่เจ้าของ onlyfans อ้างกับผู้ใช้มันจะสวนทางกัน ของโป๊สนั่นลั่นเว็บไซต์มาก จนเป็นสัญลักษณ์ของเว็บไซต์

ก่อนเกิดเหตุน้องไข่เน่าสักพัก เจ้าของ onlyfans ออกมาประกาศปังๆ ว่าต่อไปนี้ จะใส่ตะกร้าล้างน้ำเว็บไซต์ตัวเองแล้ว เอาของโป๊ออกให้หมด!! ทำนองว่า เตรียมจะขายกิจการแพงๆ พอเป็นของโป๊เดี๋ยวลูกค้าไม่ซื้อ ปรากฏว่าอหังการได้ไม่กี่วันก็กลับลำแทบไม่ทัน เพราะถ้าพวกสายโป๊ปิดบัญชี onlyfans ไป รายได้หายเรียบ (เงินค่า subscribe จะถูกหักเป็นรายได้เวบส่วนหนึ่ง) มีโอกาสสู่ขิตตาม tumblr ที่แบนของโป๊ไปก่อนหน้านั้น และก็ปัง (ปิ๊นาศ) ไปแล้ว

แล้วถ้า onlyfans แบนของโป๊ไป มีเว็บอื่นจ้องตาเป็นมันอยู่แล้วว่า จะเอาโมเดล onlyfans นั่นแหละไปทำให้ปังๆ (มีบางเว็บเปิดแล้วด้วย) ถ้าคนทำธุรกิจเป็น ย่อมไม่โง่ให้ใครมาชุบมือเปิบง่ายๆ onlyfans นั้นข่าวว่าทำรายได้ให้เจ้าของเว็บมหาศาล ดังนั้น ของโป๊จึงอยู่คู่ onlyfans ต่อไป …ตราบใดที่คนบนโลกนี้ยังมีความต้องการทางเพศ อย่าคิดเรื่องจะไปพยายามปิดกั้นของโป๊เลย เพราะใครๆ ก็ชอบดู แต่จะแสดงออกปากตรงใจหรือไม่อีกเรื่อง

กรณีของ onlyfans นั้นเป็นประเด็นที่สร้างปรากฏการณ์สำคัญให้วงการของโป๊ทั่วโลกเรื่องหนึ่ง คือ “การที่ดาราหนังโป๊ผลิตเนื้อหาเอง ทำให้เป็นเนื้อหาเป็นความยินยอมพร้อมใจของดาราคนนั้น” ก่อนหน้านั้นในอุตสาหกรรมหนังโป๊นี่ก็มีข่าวเรื่องการกดดันให้ต้อง “กระทำการ” อะไรมากกว่า ข้อตกลง ระหว่างถ่าย และมีเรื่องของผู้มีอิทธิพลเข้ามาบังคับอีก พอผลิตเอง ดาราหนังโป๊ก็สบายใจ เงินก็ได้เองมากกว่าส่วนแบ่งจากค่าย และจะออกมากี่คลิป กี่รูปก็ได้

ย้อนกลับมาที่ประเทศไทย “น้องไข่เน่า” ที่ถูกจับไม่ใช่ผู้ผลิตของโป๊รายแรกๆ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอดังขึ้นมาได้อย่างไร แต่ตอนโดนจับเธอก็ให้การภาคเสธ ทำนองว่า “ไม่ได้นำเข้าข้อมูลลามกอนาจารที่เป็นสาธารณะตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์” เพราะของเธอมันเป็นเว็บไซต์เก็บเงิน ดูได้เฉพาะพวกจ่ายเงิน subscribe แต่ถามๆ พวกฝ่ายกฎหมายบอกมันอ้างไม่ได้ ก็รอดูแล้วกันว่าเธอจะรอดข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้หรือไม่ในชั้นศาล

การเติบโตของ onlyfans ในประเทศไทยเกิดขึ้นได้อย่างไร ส่วนตัวนั้นเคยเห็นพวกทำ onlyfans มาโปรโมตในแอพพลิเคชั่น “นกฟ้า” อยู่ หรือ บางคนก็ไปขโมยรูป ขโมยคลิปเขามาโพสต์ มันก็เลยแพร่กระจาย แต่เจ้าของหรือนักแสดงก็ฟ้องปกป้องสิทธิของตัวเองไม่ได้ เพราะจะพลอยติดตะรางไปด้วยในฐานะผู้ผลิตและนำเข้าเนื้อหาแต่แรก ก็ทำได้แค่แช่งชักหรือแจ้งไปยังแอพนกฟ้านั่นแหละว่ามีผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ให้แอพมันแบน

ทำไมคนไทยมาทำของโป๊ลง onlyfans? เพราะบางคน เรือนร่างกลายเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายในยุคโควิดระบาดนี้ไปเสียแล้ว เคยเจออยู่รายเป็นหนุ่มน้อยท่าทางอายุไม่เท่าไร ทำ onlyfans ของตัวเอง โดยบอกว่าเดิมทำงานประเภทพริตตี้ หรือพิธีกรตามงานนิทรรศการต่างๆ พอเกิดโควิดระบาด รัฐบาลปิดเมือง การเยียวยาอะไรไม่ครอบคลุมพอกับค่าใช้จ่ายที่มีทุกวัน ก็ต้องตัดสินใจเลือกทางนี้แบบด้านได้อายอด จะให้เขาคิดถึงอนาคตก็เป็นเรื่องอนาคตแล้วกัน วันนี้เอาตัวให้รอดก่อน

ลองเจาะกันดีๆ สิ จะรู้ว่า หลายคนที่มาทำ onlyfans ได้รับผลกระทบจากการเยียวยาที่ไม่ทั่วถึงของรัฐบาล บางคนเป็นพ่อค้าจตุจักร พ่อค้าตลาดนัดรัชดา พวกนี้อายุไม่เท่าไรเดิมทำธุรกิจ พอปิดเมืองไปก็มีแต่หนี้สิน ไม่มีรายได้ ..ร่างกายนี่แหละคือต้นทุนที่เหลือ .. ยิ่งในยุคปัจจุบัน เรื่องโป๊ๆ (โดยเฉพาะผู้ชายโป๊) เขาไม่ค่อยถือกันเท่าไร เพราะมันเกิดศัพท์คำนึงคือ spornosexual มาจาก sport + porn คือคนรูปร่างดีๆ แก้ผ้าถ่ายรูป มันประกาศถึงความภูมิใจในรูปร่าง ที่กว่าจะบ่มเพาะได้ ต้องมีวินัยการออกกำลังกายฟิตกล้าม การกิน ..หลายคนก็เต็มใจเปิดเผยรูปร่างผ่านเลนส์ช่างภาพฝีมือดีๆ

ในอดีต การเปิดเผยร่างกายถือว่าเป็นเรื่อง “ไร้ยางอาย” แต่ปัจจุบันแนวคิดนี้มันถูกรื้อถอนออกไปเยอะด้วยความเป็น เสรีนิยม มีการพูดเรื่องสิทธิในร่างกาย การแสดงออก การเปิดเผยมันคือความพอใจของปัจเจก คนเรามีสิทธิใช้ร่างกายของตัวเองในการสร้างความนิยม (เช่นที่เราเห็นคนโพสต์รูปเซ็กซี่ตัวเองตามอินสตาแกรม) หรือ เป็นต้นทุนในการหาเงินได้ และเขาก็ถือว่า “มันคือความบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่” ย้อนกลับไปข้างต้น คงหายากคนไม่ชอบดูของโป๊เนี่ย

ดังนั้น มันก็เป็นสิทธิของผู้ใหญ่ในการรับความบันเทิง ถ้าเป็นห่วงเยาวชนดูแล้วจะใจแตก ประเทศนี้ก็ควร ให้ความรู้ กับเยาวชนเรื่อง“วุฒิภาวะ” ไม่ใช่ใช้วิธีมักง่ายโดยการ ปิดกั้นไปเสียหมด ..มันมี ประเด็นทางเพศ ที่ควรจะต้องสอนเยาวชนในประเทศตั้งหลายอย่างให้โตไปไม่มีแนวคิดทางเพศที่บิดเบี้ยว ทั้งเรื่องความเสมอภาคทางเพศ การเคารพอัตลักษณ์ทางเพศของกลุ่มหลากหลายทางเพศ ความรับผิดชอบในการมีเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์โดยความยินยอมพร้อมใจ ..พูดกันให้ตรงไปตรงมาอย่าพยายามกระมิดกระเมี้ยนเลย

อย่าคิดเยอะว่า “เมืองไทยเมืองพุทธ รับเรื่องของโป๊ไม่ได้” เมืองพุทธแต่พวก “ภาพกาก” หรือ ภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังโบราณก็มีภาพเชิงสังวาสตั้งเยอะ มันก็ฟ้องว่าเขาก็ซ่อนเรื่องสนุกสัปดนไว้ในวิถีไทยๆ มาตั้งนานแล้ว หรือวรรณกรรมโบราณอย่าง “สรรพลี้หวน” เป็นอย่างไรก็ไปหาอ่านเอา.. แต่ก็มีหลายๆ คนที่เขาก็ยึดมั่นถือมั่นกับแนวคิดว่า “เรื่องน่าอายเรารู้ว่ามันมีแต่ไม่จำเป็นต้องหยิบขึ้นมาตีแผ่ประจานตัว” ซึ่งมันก็แล้วแต่คนจะคิด มันเป็นเรื่องของ “คุณค่า” ที่แต่ละคนยึดถือชุดความคิดไม่เหมือนกัน

เรื่องเพศ บางคนก็บอกว่า มันเป็นธรรมชาติวิสัยของมนุษย์ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเสรีระดับหนึ่ง แต่ สายศีลธรรม สายศาสนา เขาก็มีวิธีคิดอีกแบบหนึ่ง ..จุดร่วมเดียวที่นึกออกง่ายๆ คือ ใครถือก็ถือ ใครไม่ถือก็ไม่ต้องถือ ต่างคนต่างยึดวิธีคิดตัวเอง อย่าไปด้อยค่ากัน ..อย่างวิธีคิดที่ว่า ถ่ายวันนี้ระวังมันจะทำลายอนาคต ต้องย้ำว่าควร “ยอมรับและเคารพในศักดิ์ศรีของมนุษย์เพิ่มขึ้น” ในช่วงชีวิตหนึ่งของคนๆ หนึ่งอาจมีเหตุผลหลายอย่างที่จะทำของโป๊ เขาชอบของเขา เขาต้องหาเงิน ฯลฯ  แต่อย่าไปตีตราว่านั่นคือความเลวที่ไม่อาจแก้ไข ต้องประณามขุดประจาน ..เมื่อช่วงชีวิตนั้นของเขาผ่านไป ก็จบ  

มีตั้งหลายประเด็นที่น่าพูดถึงเกี่ยวกับของโป๊ แต่วันนี้ขอแค่นี้ก่อน.

………………………………………….
คอลัมน์ : ที่เห็นและเป็นอยู่
โดย “บุหงาตันหยง”
ขอบคุณภาพจาก : Unsplash, Freepik