โดยหลังจากเรื่องนี้ถูกโพสต์และมีการแชร์ต่อ ๆ กันไปก็กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกโซเชียล และทำให้ชาวโซเชียลเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่ รวมถึงมีผู้ออกมา “ตั้งข้อสังเกต” ถึงกรณี “กิจกรรมเริงรักกลางแจ้ง” ที่หลัง ๆ ดูเหมือน “ในไทยเกิดบ่อย” อีก??…

“เซ็กซ์เอาต์ดอร์” ในไทย “เซ็งแซ่อีก”

มีเหตุการณ์แบบนี้ “เกิดขึ้นต่อเนื่อง”

เกิดกรณี “ชวนอึ้งถี่ตั้งแต่ต้นปี 2567”

ทั้งนี้ กระแสเซ็งแซ่กรณี “เริงรักกลางแจ้ง” ที่ดูเหมือนจะ “หวนกลับมาเกิดต่อเนื่อง” อีกแล้วนั้น ย้อนดูนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 เป็นต้นมาก็ได้มีกรณี “ชวนสยิว-ชวนตะลึง” ในลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง อาทิ… เมื่อเดือน ก.พ. ปรากฏคลิปนักท่องเที่ยวต่างชาติขณะกำลัง “ร่วมรักกันบนหาด” โดยที่เกิดเหตุนั้นมีการให้ข้อมูลไว้ว่าน่าจะเป็นชายหาดในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ถัดมาไม่นาน…ช่วงปลายเดือน ก.พ. ก็มีคนในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โพสต์เรื่องราวที่พบเจอมาว่าเป็นผู้ประสบเหตุกรณีชวนสยิวเช่นกัน เมื่อบังเอิญเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติคู่หนึ่งขณะกำลัง “จัดหนักกันบนชายหาด” แบบ “โจ๋งครึ่ม” ไม่อายใคร!!!…

นี่เป็น 2 เหตุเซ็งแซ่ที่เกิดขึ้นช่วงต้นปี

แล้วพอเดือน เม.ย. หรือเดือนนี้ ก่อนจะมีกรณีเซ็งแซ่ดังที่ระบุข้างต้น เทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาโลกโซเชียลก็ฮือฮาเมื่อมีผู้ถ่ายภาพและโพสต์ลงสังคมออนไลน์ โดยเป็นภาพคู่รักนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเพศไม่ใช่หญิงขณะกำลัง “ประกอบกามโอษฐ์กัน” ในขณะที่คนอื่น ๆ กำลังเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งภาพนี้ได้กลายเป็นกระแสไวรัลฮือฮาในช่วงนั้น…โดยทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นต่าง “ตกตะลึงอึ้งกิมกี่!!” …นี่ก็เป็นอีกเหตุการณ์ และน่าจะเป็นเพียงบางส่วนของ “เหตุสยิว” ที่เกิดขึ้น??

เกิดบ่อยที่ไทยอีก… “เซ็กซ์เอาต์ดอร์”

มักเป็นต่างชาติ…แต่ “คนไทยก็เคยมี!!”

กับเหตุ “สยิวกลางแจ้ง” ที่เคยเกิดขึ้นเซ็งแซ่…จะเป็นเรื่อง “รสนิยม?” หรือเป็นเรื่อง “อารมณ์พาไป?” หรือมีคู่ที่คิดว่า “เป็นแฟชั่น?” น่าลอง? ก็คงยากจะพิสูจน์ อย่างไรก็ตาม หากดูในภาพรวม…กับ “ปุจฉา” ที่ว่า “พฤติกรรมนี้เข้าข่ายเป็นความผิดปกติหรือไม่??” ก็มีคำตอบ-มีคำอธิบายผ่าน “มุมจิตวิทยา” โดยกรณี “เซ็กซ์เอาต์ดอร์” หรือการ “มีเพศสัมพันธ์ในที่สาธารณะ” นั้น ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม ที่ปรึกษาโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ก็เคยสะท้อนผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ไว้ถึงพฤติกรรมลักษณะนี้ ซึ่งถึงตอนนี้ก็น่าพิจารณากันอีก…

กล่าวคือ… คนที่ “ชอบมีเซ็กซ์นอกสถานที่” หรือ “ชอบเซ็กซ์เอาต์ดอร์รวมถึงคนที่ “ชอบมีเซ็กซ์โชว์ให้ผู้อื่นเห็น” นั้น ในแง่พฤติกรรมศาสตร์และจิตวิทยาถือว่ามี “พฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ (Exhibitionism)” โดยที่ จะ “มีแรงขับหรือแรงกระตุ้นทางเพศเกิดขึ้นเมื่อรู้สึกตื่นเต้น” ที่ได้ทำสิ่งที่ท้าทายหรือได้ทำสิ่งที่รู้สึกสะใจ …ดร.วัลลภ ระบุไว้

พร้อมขยายความเพิ่มเติมไว้ว่า… กับพฤติกรรมแบบนี้ถ้าอาการอยู่ในช่วงระยะเริ่มต้นก็อาจเริ่มทำจากแค่ความรู้สึกที่อยากท้าทาย ที่ได้ทำเรื่องแหกกฎหรือขนบของสังคม แต่ เมื่อเข้าสู่ระยะต่อไป หรือเมื่ออาการค่อย ๆ รุนแรงขึ้น ก็จะสังเกตเห็นแนวโน้มพฤติกรรมที่ผิดปกติเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่น เริ่มมีการย้ายสถานที่ใหม่ ๆ ที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความท้าทายมากขึ้น ซึ่งนานวันเข้าอาการจะยิ่งเพิ่มดีกรีเรื่อย ๆ เนื่องจากคนกลุ่มนี้ต้องแสวงหาความตื่นเต้นรูปแบบใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อจะกระตุ้นความตื่นเต้นเพื่อให้เกิดอารมณ์ทางเพศ และ แม้รู้ดีว่าอาจเข้าข่ายทำผิดศีลธรรมทำผิดกฎหมาย แต่ร้อยทั้งร้อย…

จะ “ไม่สามารถยับยั้งความต้องการ”

ถ้า “ไม่ได้รับการบำบัด…จะยิ่งเตลิด!!”

อย่างไรก็ตาม ดร.วัลลภ นักจิตวิทยา ยังได้ระบุไว้ว่า… จากพฤติการณ์แบบนี้ที่เคยปรากฏขึ้น สามารถแยกเป็นกลุ่ม ๆ ได้ดังนี้คือ… 1.กลุ่มที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ซึ่งกลุ่มนี้ก็ดังที่ระบุข้างต้น โดยจะตัดสินใจทำเพราะต้องการโชว์คนอื่น 2.กลุ่มที่สมัครใจทำ ที่ทำไปเพียงเพราะต้องการความสะใจหรือจากความรู้สึกที่อยากจะท้าทายเท่านั้น และยุคนี้ก็ยังมี… 3.กลุ่มที่ทำเพราะเงิน อีกด้วย โดยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ ทำเพราะมองเห็นว่า…การมีเซ็กซ์เอาต์ดอร์สามารถเรียกความสนใจจากคนอื่นได้ดี รวมถึงมองเห็นช่องทางในการสร้างรายได้จากเรื่องนี้ ด้วย

ทั้งนี้ นักจิตวิทยาท่านเดิมยังชี้ผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ถึงพฤติกรรม “เซ็กซ์เอาต์ดอร์” ไว้ด้วยว่า… ถ้าทำแค่เพราะต้องการกระตุ้นอารมณ์ชั่วครั้งชั่วคราว ก็อาจจะหยุดการกระทำแบบนี้ได้เอง แต่ถ้าไปถึงขั้น “เสพติดเซ็กซ์เอาต์ดอร์” แล้ว…ก็นับว่า “น่าเป็นห่วง!!” เพราะทั้ง “เสี่ยงโดนคดี” แล้วก็ยัง “เสี่ยงนำไปสู่อาการป่วยทางจิตเรื้อรัง” ด้วย!!

ต่างชาติต่างขนบมาทำที่ไทยเนือง ๆ

แต่เรื่องเช่นนี้ “คนไทยอย่าได้ริทำ”

เพราะ “ชีวิตพังเละได้ในพริบตา!!”.