นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แถลงนโยบายการทำงานของรัฐบาลต่อสมาชิกรัฐสภาไปเมื่อวันที่ 12 ก.ย.67 นั่นคือวันเริ่มต้นทำงาน และวันที่มีอำนาจเต็ม ๆ ในฐานะนายกฯ คนที่ 31
สรุปเพิ่งบริหารประเทศมาได้ 5 เดือนกว่า ๆ น.ส.แพทองธารได้รับเกียรติจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยพรรคประชาชน ยื่นเรื่องขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจการทำงานของนายกฯ เพียงคนเดียวเท่านั้น
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะยื่นขออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีไม่ต่ำกว่า 10 คน เช่น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาฯ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน โดยจะขอเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบมาราธอน 5 วัน 5 คืน
“พยัคฆ์น้อย” เตรียมแคะหูฟังว่า นอกจากเรื่องของนายกฯ พรรคฝ่ายค้านคงพุ่งเป้าไปที่ รมว.มหาดไทยเกี่ยวกับปัญหาที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ที่ศาลฎีกาตัดสินว่าเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แต่กรมที่ดินยังต้องให้รฟท. พิสูจน์สิทธิบนที่ดินแปลงดังกล่าวกว่า 5 พันไร่ ให้ชัดเจนก่อน!
นอกจากที่ดินเขากระโดง อาจจะมีเรื่อง “ฮั้ว สว.-สว. สีน้ำเงิน” พ่วงเข้ามาด้วยแน่ ๆ แต่ต้องผิดหวัง เนื่องจากพรรคประชาชนที่มี 143 เสียง ขอพุ่งเป้าถล่มนายกฯแพทองธารเพียงคนเดียว ในประเด็นเกี่ยวกับการไม่มีคุณสมบัติ ไม่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหาร
ทั้งขาดภาวะผู้นำ ขาดวุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถ ส่งผลทำลายภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นของประเทศชาติ จงใจลอยตัวอยู่เหนือปัญหา ไม่มีความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ เพียงเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเอง บิดา ครอบครัว และพวกพ้องเป็นตัวตั้ง อยู่เหนือผลประโยชน์ของส่วนรวม
นอกจากนี้ยังไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์ เอาเปรียบประชาชน ไม่ดำเนินการตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน บริหารบ้านเมืองผิดพลาดล้มเหลวอย่างร้ายแรงทั้งในด้านการเมือง การปฏิรูปกองทัพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ ปล่อยให้มีทุจริตคอร์รัปชัน ทุจริตเชิงนโยบาย
ทั้งยังสมัครใจยินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกฯหุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกฯ ตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร แย้มออกมาแล้วว่าจะให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯในวันจันทร์ที่ 24 มี.ค.68 แต่จะอภิปรายกี่วัน ต้องหารือกันก่อน
“พยัคฆ์น้อย” ดูประเด็นแล้ว อันที่จริงแค่วันเดียวก็พอ! เริ่มจาก 9 โมงเช้า ไปถึง 4-5 ทุ่ม หรือถ้าจะไม่หักหาญจิตใจกันก็ไม่เกิน 2 วัน เนื่องจากเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่ฝ่ายค้าน–สื่อมวลชน–สังคมวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นเหล่านี้มาโดยตลอด และฝ่ายค้านไม่ได้หวังล้มรัฐบาล! เพราะยังไงก็ล้มยาก! พรรคประชาชนจึงต้องการแค่นวดนายกฯ ให้ช้ำ ก่อนถึงการเลือกตั้งปี 70
เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลมี 321 เสียง ฝ่ายค้านมี 172 เสียง อภิปราย 5 วัน นายกฯคงไม่ปรับคณะรัฐมนตรีตอนนี้ เผลอ ๆ สส. ฝ่ายค้านจากพรรคพลังประชารัฐ และพรรคไทยสร้างไทย อาจยกมือให้นายกฯ ด้วยซ้ำไป!
ต้องคอยดูว่าเที่ยวนี้ “พลังประชารัฐ” จะเหลือ สส.เฝ้าพรรคอยู่คนเดียวหรือเปล่า?.
…………………………………
พยัคฆ์น้อย