ถ้าหากพูดถึงคำว่า “ครู” หรือ “วันครูแห่งชาติ” แล้ว หลายคนคงจะนึกถึงกิจกรรมการไหว้ครู หรือระลึกถึงพระคุณของครู บุคคลผู้ประสิทธิ์ประศาสตร์วิชาความรู้ให้เราได้นำไปต่อยอดเลี้ยงชีวิตในอนาคตแน่นอน งานนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” จึงไม่พลาดพาทุกคนไปทำความรู้จักเพิ่มเติมกับวันนี้กัน ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ตามมาจ้า

“วันครู” นับเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของครู ที่เหล่าลูกศิษย์พร้อมใจระลึกจัดพิธีไหว้ครู ในวันที่ 16 ม.ค.ของทุกปี เพราะครูคือเทียนส่องทางสร้างคนเป็นคนด้วยผลของการศึกษา นำความรู้มาให้โดยไม่หวังผลตอบแทน จึงกล่าวได้ว่าครู เป็นบุคคลสำคัญอย่างมากในวงการการศึกษา ที่ใครหลายคนขนานนามว่า “แม่พิมพ์ของชาติ”

ทั้งนี้ ตามประวัติแล้ววันครูได้มีการกำหนดให้จัดขึ้นครั้งแรกในวันที่ 16 ม.ค.ในปี 2500 ซึ่งตรงกับวันที่ประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี 2488 ที่ได้มีการกำหนดให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกของ “คุรุสภา” ส่งผลให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ในทุกปี คุรุสภา จึงจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูจากทั่วประเทศแถลงผลงานที่ผ่านมา รวมทั้งมีพิธีประกอบทางศาสนา พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์และมีการปฏิญาณตนของครูทั้งหลาย โดยใช้พื้นที่ส่วนกลางของกรีฑาสถานแห่งชาติเป็นสถานที่จัดงาน

สำหรับแนวคิดในเรื่องการเฉลิมฉลองในวันครูนั้น มีต้นกำเนิดมาจากหลายประเทศในช่วงศตวรรษที่ 20 ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเฉลิมฉลองให้กับผู้ที่ให้การศึกษาของแต่ละสถาบัน แต่ในปัจจุบันงานวันครูได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้กิจกรรมไหว้ครูและกิจกรรมอื่นๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าที่มีวันครูในแต่ละประเทศมีการเฉลิมฉลองแตกต่างกันไปและแตกต่างจาก วันครูโลก ที่การเฉลิมฉลองในวันที่ 5 ต.ค. ของทุกปี

ด้านดอกไม้ที่แสดงถึงวันครูนั้นคือ ดอกกล้วยไม้ โดยคณะกรรมการจัดงานวันครู ปี 2539 พิจารณาเห็นว่าคุณลักษณะของดอกกล้วยไม้ มีความคล้ายคลึงกับชีวิตครู นั่นคือ กว่ากล้วยไม้แต่ละช่อจะผลิดอกออกผลชื่นชมได้ต้องใช้เวลานาน และคอยเอาใจใส่ไม่น้อย เช่นเดียวกับครูแต่ละคน กว่าจะสั่งสอนเคี่ยวเข็ญศิษย์คนแล้วคนเล่าให้มีความเจริญงอกงามก้าวหน้าในชีวิตได้ ต้องใช้เวลาอบรมสั่งสอนมิใช่น้อยเช่นกัน นอกจากนี้ ในชีวิตคนเราถือว่า บิดามารดา เป็นผู้มีพระคุณอันสูงสุด เพราะท่านเป็นผู้ให้ชีวิต ให้ความรัก ความเมตตา มีความเสียสละเพื่อลูก นอกจากบิดามารดา แล้ว ก็มีครูเป็นผู้มีพระคุณ ครูจึงนับเป็นปูชนียบุคคลที่มีความสำคัญอย่างมากอีกบุคคลหนึ่งอีกด้วย

นอกจากนี้ กิจกรรมวันไหว้ครูในปัจจุบัน ได้ถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกิจกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยตลอดเวลา ซึ่งในปัจจุบันได้จัดรูปแบบการจัดงานวันครูจะมีกิจกรรม 3 ประเภทใหญ่ดังนี้

  1. กิจกรรมทางศาสนา
  2. พิธีรำลึกถึงครูบาิจารย์ โดยมีพิธีปฏิญานตน รวมไปถึงการกล่าวระลึกถึงพระคุณของครู
  3. กิจกรรมจัดเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ปกครองกับคุณครู อาจจะเป็นการแข่งขันกีฬาเพื่อความสามัคคี หรืองานเฉลิมฉลองต่างๆ เป็นต้น

ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจากวิกิพีเดีย