จากเหตุการณ์ช่วงปลายปี 64 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้จับกุม ขบวนการค้าลิงข้ามชาติ เพื่อนำไปส่งขายยังประเทศเพื่อนบ้าน พบว่าทำกันเป็นขบวนการมีทั้ง นายหน้า รับงานมาจาก นายทุน สั่งให้จับลิงตามออร์เดอร์ บ้างก็แฝงตัวอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ออกไปตระเวนจับ ลิงแสม หลายพื้นที่ทั่วประเทศ

ช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในตลาดมืดที่ค้าขายสัตว์ป่า เริ่มมีความต้องการ ลิงแสม จากประเทศไทย เชื่อว่านำไปเป็นสัตว์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากตอนนี้หลายประเทศทั่วโลกกำลังขาดแคลน ประกอบกับลิงแสมไทย นอกจากจะมีคุณสมบัติตรงตามต้องการแล้ว ยังนำไปแพร่ขยายพันธุ์ได้ง่าย จึงมีความต้องการสูง ทีมข่าวเฉพาะกิจส่วนกลางเดลินิวส์ พยายามตามเจาะข้อมูลถึงขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติจาก นายพลวีร์ บูชาเกียรติ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาฐานข้อมูลอาชญากรรมสัตว์ป่า สำนักงานต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย กรมอุทยานแห่งชาติฯ ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้สถานการณ์ ขบวนการค้าลิงข้ามชาติ ที่ผ่านมามีการลักลอบนำออกนอกประเทศ ผ่านไปยังชายแดนประเทศกัมพูชา เวียดนาม และลาว วัตถุประสงค์เพื่อนำไปทำเป็นอาหาร เช่น เมนูเปิปพิสดาร

แต่หลังจากมีการระบาดของโควิด-19 ทำให้มีการนำ ลิงแสม ไปเป็นสัตว์ทดลองมากขึ้น เช่น กัมพูชา นำลิงที่ส่งออกอย่างถูกกฎหมายไปเป็นสัตว์ทดลองที่สหรัฐอเมริกา เพราะในกัมพูชา มีฟาร์มเพาะลิงถูกกฎหมาย จากข้อมูลของสื่อต่างประเทศระบุว่า ฟาร์มเพาะลิงที่ถูกกฎหมายมี 9 แห่ง โดย 8 แห่งเป็นของชาวจีน

ส่วนการลักลอบนำลิงออกนอกประเทศ ในช่วงระยะ 2 ปีหลังนี้ ไทยจับกุมขบวนการค้าลิงข้ามชาติ ออกไปยังตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มากขึ้น ค่อนข้างทำกันเป็นขบวนการ มีขั้นตอน คัดคุณภาพลิงแสม ที่จับมาได้ โดยคัดเลือกขนาดที่มีความเหมาะสม โตเต็มวัย น้ำหนัก 1-5 กก.ขึ้นไปได้ทั้งเพศผู้ เมีย เป็นที่ต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ยังต้องคัดเลือกลิงที่ไม่มี “รอยสัก” บริเวณข้อมือ เพราะที่ผ่านมาทางกรมอุทยานฯ ได้ทำ หมันลิง และ สักสัญลักษณ์ ไว้บริเวณข้อมือ เพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบที่มาที่ไปของลิง ดังนั้นหากตรวจสอบพบลิงที่ถูกจับมีรอยสักผู้กระทำผิดก็จะมีโทษหนัก

ที่ผ่านมาขบวนการค้าลิง วางแผนลักลอบจับลิงที่อยู่ตามธรรมชาติ หรือในพื้นที่ชุมชนมารวมกันก่อน หากลิงตัวไหนไม่ผ่านเกณฑ์จะเอาไปปล่อยคืนในพื้นที่ธรรมชาติ หรือในชุมชนต่างๆ ทำให้ลิงไปสร้างปัญหาให้กับสัตว์ประจำถิ่นที่อยู่ในธรรมชาติและชุมชนโดยรอบ เช่น การปล่อยลิงที่ไม่ผ่านการคัดเลือกไว้ในพื้นที่ธรรมชาติ จ.พิจิตร เมื่อตรวจสอบรอยสักที่ข้อมือจึงพบว่า เป็นลิงมาจากที่อื่น ถูกนำมาปล่อย หรือที่ จ.สุพรรณบุรี ก็มีการนำลิงมาปล่อยในลักษณะเดียวกัน ส่วนขบวนการที่ลักลอบ เมื่อสืบหาที่มาก็พบว่าเป็นขบวนการเดิมๆ ที่เคยลักลอบค้าสัตว์ป่าประเภทอื่นมาก่อน กลุ่มเหล่านี้จะมีอุปกรณ์ในการจับ และมีเครือข่ายที่ส่งต่อสัตว์ที่ลักลอบออกนอกประเทศ

จากคำให้การของผู้ต้องหารายหนึ่ง ระบุถึงราคาของการลักลอบนำลิงออกนอกประเทศในช่วงโควิดพบว่า มีราคาสูงขึ้นในตลาดมืด เพราะถ้าจับมาขายเพื่อส่งต่อกันในประเทศตกตัวละ 800-1,500 บาท แต่ถ้าส่งไปถึงกัมพูชาอยู่ที่ตัวละ 2,000 บาท ซึ่งผู้ต้องหาถูกจับได้บริเวณด่าน จ.สระแก้ว ก่อนส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกัน จากรายงานของสื่อต่างประเทศมีการระบุว่า ลิงในประเทศจีน มีราคาขายตัวละ 60,000-70,000 บาท แต่พอหลังจากปี พ.ศ.2559 หลายฟาร์มที่จำหน่ายลิงอย่างถูกกฎหมายในจีนเริ่มขาดแคลน ทำให้มีบางช่วงเวลา ราคาลิงเคยพุ่งขึ้นสูงไปอยู่ที่ตัวละ 3-4 แสนบาท ด้วยความต้องการสูง จึงทำให้การค้าขายลิงมีมากขึ้น ซึ่งเราเองก็ไม่สามารถทราบได้ว่า ลิงที่อยู่ในฟาร์มเป็นลิงที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดหรือไม่ จึงเป็นอีกสิ่งที่หน่วยงานรัฐของไทย ต้องร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสืบสวนหาวัตถุประสงค์ที่แท้จริงที่ทำให้มีความต้องการลิงมากขึ้นในช่วงนี้

ที่ผ่านมามีกระบวนการค้าขายลิงเพื่อเป็นสัตว์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ ด้วยฟาร์มเลี้ยงที่ถูกกฎหมาย แต่ต้องมีการระบุถึงที่มาที่ไปอย่างชัดเจน เช่น ทุกปีจะมีจำนวนลิงเพิ่มขึ้นประมาณ 40 ตัว แต่พอมาในปีนี้ มีจำนวนลิงเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ ก็เป็นสิ่งที่น่าสงสัยว่า จะมีการแอบนำพ่อแม่พันธุ์ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายเข้าไปเพาะเลี้ยงหรือไม่

นายพลวีร์ กล่าวต่อว่า ลิงแสม ถูกลักลอบส่งออกต่างประเทศมากที่สุด แม้ก่อนหน้านี้มี ลิงวอก บ้าง เพราะจากคดีที่จับผู้ต้องหาจะพบลิงที่จับมาจะอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง จ.นครสวรรค์, ลพบุรี, อุทัยธานี ส่วนใหญ่ไปจับกันในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหรือป่าชุมชนที่มีลิงชุกชุม เมื่อจับได้แล้วขบวนการจะนำลิงไปรวมกันในพื้นที่ จ.พิจิตร หรือ สุพรรณบุรี ก่อนแอบลำเลียงส่งออกต่างประเทศ ทาง จ.สระแก้ว ส่วนสาเหตุตอนนี้ ลิงแสม เป็นที่นิยมนำไปเป็นสัตว์ทดลอง เนื่องจากสามารถเพาะพันธุ์ได้ง่าย และจากรายงานของการข่าวระบุว่า ขนาดของลิงที่เหมาะสมและเป็นความต้องการจะอยู่ที่น้ำหนัก3 กก.ประมาณตัวละ 2,000-2,500 บาท แต่ถ้าน้ำหนัก 5 กก.ขึ้นไป ตัวละ 500-1,800 บาท นอกจากนี้ยังต้องขึ้นอยู่กับความแข็งแรงด้วย ส่วนลิงมี รอยสัก ข้อมือจะไม่รับซื้อ เนื่องจากเป็นลิงที่ทำหมันแล้ว จะเห็นว่า ด้วยราคาที่ตลาดมืดกำหนด ความต้องการเหล่านี้ไม่น่าจะซื้อไปเพื่อเปิบพิสดาร แต่เน้นไปเป็นสัตว์ทดลอง จึงนิยมเลือกลิงที่อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต

สำหรับการลงมือจับลิงแสมของขบวนการจะเริ่มจากไปโปรยอาหาร เช่น ถั่ว หรือ อาหารสุนัข เพื่อล่อให้ลิงลงมาแกะเปลือกถั่วกินรวมกันเป็นกลุ่ม จากนั้นจะเลือกลิงที่ต้องการ จึงยิง ลูกดอกยาสลบ นอกจากนี้บางครั้งยังดัดแปลงท้ายปิกอัพให้เป็นคอก เมื่อเข้าไปหยิบอาหารในคอกจะติดกับดัก หลังจากได้ลิงมาแล้วจะนำไปคัดแยกตามขนาดความเหมาะสม แต่สิ่งที่น่าสงสารคือ กระบวนการในการลักลอบขนส่ง บางครั้งทำให้ลิงกว่า 20% ต้องตายอย่างทรมานระหว่างขนส่ง เช่น ผู้ต้องหาที่จับได้ใน จ.สระแก้ว แอบซ่อนลิงไว้ท้ายกระบะ โดยจับลิงมัดใส่ยัดรวมกันไว้ในกระสอบกว่า 100 ตัว โดยผู้ต้องหารายนี้ทำผิดมาแล้วหลายครั้ง

จากข้อมูลของหน่วยงานที่ดูแลปกป้องสัตว์ป่าระหว่างประเทศยังพบว่า “เม็ดเงิน” ที่ได้จากการลักลอบค้าสัตว์ป่า มีมหาศาลรองจากการลักลอบค้ายาเสพติด จึงเป็นอีกประเด็นที่น่าเป็นห่วง เพราะคนไทยมักมองว่าลิงเป็นสัตว์ที่สร้างความรำคาญ เลยไม่ค่อยสนใจ เวลามีกลุ่มคนแอบมาลักลอบจับลิงในพื้นที่ ทำให้ขบวนการค้าลิงข้ามชาติลงมือได้ค่อนข้างง่าย สำหรับตอนต่อไป ทีมข่าวเฉพาะกิจส่วนกลางเดลินิวส์ จะพาไปดูเจ้าหน้าที่ลุยจับกุมขบวนการค้าลิง!!.

ทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงาน