เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายสุพล ฟองงาม ประธานภาคอีสาน ลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่ อ.หนองกุงศรี และ อ.กุฉินารายณ์ และ ที่ อ.เมือง จ.มหาสารคามพร้อมเปิดตัวผู้แสดงเจตจำนงลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรคประกอบด้วย นายจำลอง ภูนวนทา กาฬสินธุ์เขต 3 นายนิพนธ์ ศรีธเรศ กาฬสินธุ์เขต 5 และน.ส.นงลักษณ์ ทุ่งจันทร์ มหาสารคามเขต 1 โดยแต่ละพื้นที่มีประชาชนร่วมกิจกรรมราว 500-600 คน
นายอุตตม กล่าวว่า การลงพื้นที่จ.กาฬสินธุ์และจ.มหาสารคาม ในวันนี้ นับเป็นวันที่2 ต่อเนื่องจากจ.อุดรธานีในวันก่อนหน้า มีวัตถุประสงค์เพื่อพบปะประชาชน พร้อมเปิดตัวผู้แสดงเจตจำนงลงสมัครสส.ในนามพรรคฯ ซึ่งพบว่ามีเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเสนอนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากพี่น้องชาวอีสานรับรู้ว่านายสมคิดเป็นมือเศรษฐกิจที่อยู่เบื้องหลังนโยบายสำคัญๆในรัฐบาลมาหลายยุคหลายสมัย
“วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชน เป็นเรื่องที่ต้องได้รับการดูแลแก้ไขเป็นอันดับแรก และพรรคสร้างอนาคตไทยมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจมากที่สุด โดยเฉพาะว่าที่แคนดิเดตนายกฯของพรรค เป็นที่รับรู้กันว่าคือผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาแก้ไขสถานการณ์เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ขณะนี้” นายอุตตม กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทยเล็งส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงในภาคอีสานให้ครบทุกเขต โดยยึดคุณสมบัติตัวผู้แสดงเจตจำนงเป็นหลัก หากเรามั่นใจว่าท่านที่อาสามาร่วมกับพรรคฯ เป็นคนดีคนเก่งมีความรู้และตั้งใจจริงที่จะดูแลพี่น้องประชาชนพรรคก็จะส่งลงโดยไม่สนใจว่าพื้นที่ นั้นจะมีเจ้าของพื้นที่เดิมเป็นใครหรือพรรคใด
“พื้นที่จ.อุดรธานี จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม ที่พึ่งเปิดตัวไปนั้นเป็นตัวอย่างว่า เรามั่นใจในตัวผู้แสดงเจตจำนงลงสมัคร ส.ส.ของเราทุกคนว่าเป็นคนดี มีความรู้ ความสามารถ เป็นปากเสียงให้กับพี่น้องประชาชนได้จริง พรรคก็พร้อมจะส่งลงเป็นตัวแทนโดยไม่เอาเรื่องพื้นที่นั้นเป็นของใครหรือของพรรคไหนมาเป็นเงื่อนไข”นายสนธิรัตน์กล่าว
ด้านนายสุพล กล่าวว่า หลังจากที่พรรคลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พบว่าได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนมากขึ้นเป็นลำดับ วันนี้คนอีสานรู้สึกเบื่อหน่ายกับความขัดแย้งทางการเมือง หรือการเล่นการเมืองแบบเก่าๆ เพราะที่ผ่านมาประชาชนไม่ได้ประโยชน์ โดยเฉพาะเรื่องปัญหาปากท้องในวันนี้ ประชาชนต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถทางเศรษฐกิจเข้ามาช่วยแก้ปัญหา จึงมั่นใจว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค จะสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในภาคอีสานได้อย่างแน่นอน.
