ภาพกล้องหน้ารถบันทึกภาพขณะรถกระบะเป็นเจ้าของคลิปขับรถอยู่ถนนเลนขวา โดยทางข้างหน้ามีรถยนต์เก๋งขับช้าอยู่เลนขวาสุดอยู่ จากนั้นทางรถกระบะก็ได้มีการบีบแตรส่งสัญญาณให้ขับเบี่ยงเลนซ้าย แต่รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวไม่ยอมหลบ และขับแช่ขวาอยู่ตลอด ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จนรถยนต์กระบะขับแซงซ้ายขึ้นไป แล้วขับกลับเข้าเลนขวาแซงรถเก๋งขึ้นไป จากนั้นขับไปติดสัญญาณไฟจราจร จนมีคนจากรถยนต์เก๋งของคู่กรณีลงมาจากรถแล้วมาเถียงกันอยู่บริเวณฝั่งด้านเบาะซ้ายข้างคนขับ จากนั้นสัญญาณไฟเขียวรถกระบะก็ขับออกแล้ว รถยนต์เก๋งคู่กรณี 1 ใน 2 คนก็ได้ปาขวดเครื่องดื่มชูกำลังเข้ามาในรถ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วง 10.30 น วันที่ 16 ก.ค.
ต่อมาเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายมานัสชัย บุญลอย อายุ 26 ปี ชาวตำบลธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมแฟนสาว น.ส.ทอปัด กิจพรชัยพงษ์ อายุ 23 ปี เจ้าของรถกระบะที่ถูกก่อเหตุ ซึ่งเป็นเจ้าของคลิป ขณะขับรถกระบะ แล้วถูกคู่กรณีขว้างปาขวดใส่ เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บางปะอิน สาขาสินทิวาธานี
สอบถาม นายมานัสชัย เปิดเผยว่า ตนเองและแฟนสาว กำลังเดินทางจะไปทำงานโดยขับรถใช้เส้นทางถนนโรจนะมุ่งหน้าไปอำเภอวังน้อย ผ่านหน้าวัดคานหาม มีรถเก๋งของคู่กรณีขับอยู่ แช่เลนขวาสุด จึงได้บีบแตรเพื่อให้รถยนต์เก๋งได้ขับเข้าเลนซ้ายแต่รถเก๋ง ไม่ยอมหลบยังขับแช่เลนขวาอยู่ ตนเองจึงได้ขับรถแซงซ้ายแล้วขับเข้าเลนขวาไป ไม่ได้คิดอะไรพอติดสัญญาณไฟจราจรสี่แยกอุทัย – ภาชี มีรถยนต์เก๋งของคู่กรณีเป็นชาย 2 คนเดินลงมา แล้วพยายามจะเปิดประตูรถฝั่งภรรยาที่ตนเองนั่งอยู่แต่ตนเองได้ล็อคประตูเอาไว้ จากนั้นก็ถูกชาย 2 คนด่าทอและหาเรื่องตนก็ตอบโต้ไปและมีการโต้เถียงกันเกิดขึ้นจนสัญญาณไฟเขียว ตนเองจึงได้ขับรถออกทำให้ชายทั้งสองคนที่ยืนอยู่ข้างรถได้นำขวดเครื่องดื่มชูกำลังกว้างปาใส่ บริเวณท้ายรถเข้ายังจังโชคดีกระจกหลังรถไม่แตก ตนจึงได้นำคลิปกล้องหน้ารถทั้งด้านหน้าและด้านหลังเดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อความปลอดภัยและนึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นโชคดีที่ล็อคประตูรถไว้ไม่เช่นนั้นตนเองและแฟนอาจจะต้องถูกทำร้าย ตนเองรู้สึกกลัว นึกไม่ถึงว่าการที่บีบแตรเพื่อบอกสัญญาณนั้นส่งผลให้ต้องมีเรื่องบนท้องถนน
ด้าน น.ส.ทอปัด แฟนสาว กล่าวอีกว่า เขาขับเลนขวารู้ว่าเป็นทางตรง แล้วทีเนี่ยเลนขวาซึ่งเป็นที่ใช้ความเร็วแต่เข้าวิ่งช้าอยู่ ก็เลยบีบแตรเพื่อเตือนเขา 4 – 5 ครั้งเขายังไม่ขยับ ซึ่งเราก็ยอมรับผิดที่ขับแซงขึ้นไปปาดหน้า แต่เราแค่แซงเขา เพราะรถคันอื่นที่มาเร็วมาเจอแบบนี้ก็อาจโมโหก็มีเยอะ จอดคุยกันดีๆก็ได้มาถึงพูดๆหนูรู้ว่าจะดึงประตูรถ แฟนก็เลยล๊อกรถ หนูก็ไม่รู้ว่าถือขวดมา แต่เราเข้าใจอารมณ์เขาว่าถูกปาดหน้า แต่คุณก็ต้องเข้าใจว่าคุณขับช้าเลนขวา คุณก็แค่หลบให้เขา
