นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือน ก.ค.64 เท่ากับ 99.81 ลดลง 0.12% เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย.64 และเพิ่มขึ้น 0.45% เทียบกับ ก.ค.63 สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แต่เพิ่มในอัตราที่ชะลอตัวลง ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 7 เดือนของปี 64 (ม.ค.-ก.ค.) เพิ่มขึ้น 0.83% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออก อยู่ที่ 100.50 เพิ่มขึ้น 0.03% เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.64 และเพิ่มขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ค.63  เฉลี่ย 7 เดือน เพิ่มขึ้น 0.26%

ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อยังคงขยายตัว มีปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ที่เพิ่มสูงขึ้น 29.35% อาหารสดบางชนิด เช่น เนื้อสุกร ไข่ไก่ ผลไม้สด ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องของฐานปีที่แล้วต่ำ และมีความต้องการเพิ่มขึ้นในบางช่วง ประกอบกับมีเครื่องประกอบอาหาร เช่น น้ำมันพืช ซีอิ๊ว พริกแกง ที่เพิ่มขึ้นจากฐานปีที่แล้วต่ำ แต่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาล ทั้งการลดค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้าที่ลดค่อนข้างแรงกว่าเดือนที่แล้ว เพราะใช้ฐานคำนวณใหม่ เป็นเดือน ก.พ. จากเดิม เม.ย. ทำให้จ่ายค่าไฟถูกลง และยังมีการลดค่าธรรมเนียมการศึกษาด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการลดลงของสินค้าอาหารสดบางชนิด เช่น ข้าว ข้าวสารเหนียว ผักสด มังคุด เพราะมีปัจจัยเรื่องผลผลิตออกมาก เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น น้ำดื่ม กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำอัดลม และเครื่องนุ่งห่มราคาลดลง เพราะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด คอยกดดันให้ความต้องการจับจ่ายใช้สอยลดลง

ส่วนราคาน้ำมัน แม้จะมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่ก็มีแนวโน้มชะลอตัวลง สำหรับสินค้าในหมวดอื่น ๆ น่าจะยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ ตามปริมาณผลผลิตและความต้องการ ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรยังมีโอกาสผันผวนตามสภาพอากาศ และยังมีปัจจัยจากโควิด-19 ที่กระทบต่อกำลังซื้อของประชาชน  สำหรับคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปี ยังคงอยู่ในช่วง 0.7-1.7% มีค่ากลางอยู่ที่ 1.2% และมองว่าโอกาสจะขยับถึง 1.7% มีความเป็นไปได้น้อย เพราะน้ำมันไม่ได้ขยับขึ้นต่อเนื่อง และยังมีมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาล