เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสุดยอดนักดนตรีที่สร้างเสียงอันไพเราะผ่านเครื่องดนตรี และสร้างเสียงหัวเราะให้กับเหล่าแฟนๆ จำนวนมาก สำหรับ นายอนุชิต กุลศรี หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ “เควิน โปงลางสะออน” ไอ้หนุ่มผมยาว คาแรกเตอร์ตลก ซึ่งเป็นมือเป่าแคนของวงโปงลางสะออน ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง “อี๊ด โปงลางสะออน” ได้ออกมาอัพเดทอาการของเควิน หลังจากที่ต้องเผชิญโรคเกาต์ และกลับไปรักษาตัวที่บ้านจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งได้ย้ายกลับมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว พร้อมทั้งเผยอาการที่หนักถึงขั้นติดเตียงเดินไม่ได้อีกด้วยนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” โทรฯ สัมภาษณ์เควินถึงอาการล่าสุดที่ป่วย โดยเควิน เผยว่า “อาการดีขึ้นจากเดิมนิดนึง มีโรคเกาต์ กับเบาหวาน แต่ก็ยังทรงตัวอยู่ หนักบ้าง เบาบ้าง ตอนนี้เรากลับบ้านมา 3 ปีแล้ว ตั้งแต่ก่อนเกิดโควิด และก็ไม่ได้ทำงานกลางคืนแล้ว ก่อนหน้านี้อาการหนักมากถึงขั้นติดเตียง ตอนนั้นทรมานมากขยับตัวไม่ได้เลย ขยับได้แค่ตา ปวดตามข้อ ยังดีที่มีทางครอบครัวเข้ามาช่วยเหลือดูแลเราตอนที่ติดเตียง ช่วยหาข้าวมาให้ทาน

นอกจากนี้ยังมีหัวหน้าอี๊ดที่ช่วยประสานให้เรา ให้ผู้ใหญ่เข้ามาช่วยดูตอนที่เรากลับมาอยู่ที่บ้าน ช่วยเหลือเรามาตลอด และก็มีพี่ๆ น้องๆ ในวงการ และที่เคยทำงานร่วมกันคอยช่วยเหลือไม่ห่าง จริงๆ ก่อนโควิดครั้งแรกช่วงที่เราพักงานพอดี ให้กลับมาดูสุขภาพร่างกาย 3 เดือน เลยกลับมาอยู่บ้านที่ จ.กาฬสินธุ์ และเป็นจังหวะที่ประกาศห้ามเดินทางพอดี เลยไม่ได้กลับไปกรุงเทพฯ เลยอยู่ที่บ้านยาวเลย

อาการตอนนี้ก็จะมีปวดกระดูก ปวดตามข้อ มีตุ่มบวมขึ้น แล้วก็มีแตกออก เราก็จะทำความสะอาด หมอก็พยายามให้ทานยาอยู่เรื่อยๆ เพราะรักษาอีกยาว แต่ทางคุณหมอก็บอกว่ามีโอกาสรักษาหาย แต่ค่อนข้างยาก และตอนนี้นิ้วมือเริ่มบิดเบี้ยวหมดแล้ว ซึ่งมันเป็นช่วงโควิดที่ผ่านมา ตอนที่เราทำงานโรงเบียร์ก็ไม่เป็น มีแค่เดินไม่สะดวก แต่หยิบจับได้สะดวก สาเหตุก็เกิดจากการพักผ่อนน้อย ทำงานดึก แต่เราก็เลือกไม่ได้ เพราะถ้าไม่ทำก็ไม่มีเงิน ถ้าถามว่าตอนนี้ใช้ชีวิตลำบากไหม ก็ลำบากมาก เราไม่ได้ทำงาน ไม่มีตังค์เลย ส่วนกิจวัตรประจำวัน ก็ยังพอเดินได้แต่ไม่สะดวกมาก มีใช้ไม้เท้าช่วยได้ ช่วยทานข้าวก็ยังพอได้ แต่ที่ทำไม่ได้เลยคือเป่าแคนไม่ได้แล้ว เพราะนิ้วมือบิดเบี้ยวผิดรูปไปแล้ว

ส่วนโอกาสที่จะกลับมาเหมือนเดิมคงยาก เพราะข้อนิ้วมันล็อกทุกส่วนแล้ว ตามข้อมือ ข้อศอกไปหมด จากแบมือได้ตอนนี้ก็เป็นกำปั้นหมดแล้ว นิ้วมันล็อกไขว้กันไปหมด หมอบอกว่าต้องรักษาเกาต์ให้ก่อน จึงจะสามารถกายภาพให้ดีขึ้นได้ ส่วนเพื่อนๆ ที่รู้จักกัน เคยทำงานด้วยกันก็โทรฯ มาถามไถ่อาการบ้าง ช่วยเหลือบ้าง แต่ก็นานๆ ที เราเข้าใจว่าสถานการณ์แบบนี้ทุกคนคงยากหมด ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ทำงานอะไร เพราะงานที่บ้านก็หายาก ก่อนหน้าก็ทำงานแพลตฟอร์มสั่งซื้อของ ก็มีเพื่อนๆ สนใจ อุดหนุนอยู่บ้าง

ถ้าถามว่าอยากกลับไปเล่นดนตรีอีกไหม ต้องตอบเลยว่าผมเล่นดนตรีมาทั้งชีวิต อาชีพผมทั้งชีวิต เรียนมาทางด้านนี้ อยู่กับมันมาทั้งชีวิตด้วย อยู่บ้านตอนนี้ผมจะบ้าตาย นอนไม่หลับเลยตอนกลางคืน เพราะเราเคยทำกลางคืนมา ผมก็ยังอยากกลับมาเล่นดนตรีอีกครับ แต่ตอนนี้อย่างที่บอกนิ้วมือมันล็อก ก็คงกลับมาเล่นดนตรีไม่ได้แล้ว แต่ยังร้องเพลงได้อยู่ แต่ถ้าผมกลับมาหายเป็นปกติ ก็อยากจะกลับมาตีกลองอีกครั้ง เพราะเป็นสิ่งที่ถนัด รวมทั้งเป่าแคน เหมือนอย่างสมัยก่อน อยากกลับไปสนุกเหมือนเดิม ถ้าผมแข็งแรงสัก 40% ก็อยากจะกลับไปหาเพื่อนๆ ที่เคยทำงานที่เล่นในร้านด้วยกัน

สุดท้ายก็ต้องกราบขอบพระคุณพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ สหายที่คอยให้กำลังใจ คอยซัพพอร์ตในเวลาที่เราขัดสน ตกทุกข์ได้ยาก ลำบากยังโทรฯ เข้ามาทักทายถามไถ่อาการตลอด มีน้ำใจช่วยเหลือตลอด ต้องขอขอบคุณด้วยที่ยังคอยเป็นกำลังใจให้ แต่อย่าลืมอย่างเดียว ใครให้กำลังใจเราก็ไม่เท่าเราให้กำลังใจตัวเอง รวมทั้งหัวหน้าอี๊ด ที่คอยช่วยเหลือทุกๆ เรื่อง และมีอะไรก็จะบอกให้โทรฯ มาตลอด

สำหรับแฟนๆ ที่คอยเป็นกำลังใจให้ผม ผมขอขอบคุณ ถ้าผมหายผมก็จะกลับไปเล่นดนตรีอีกครั้งแน่นอน ไม่แน่อาจจะมีข่าวดี วงโปงลางสะออนอาจจะมีโอกาสกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ยังไงก็ต้องรอลุ้นกันดูว่าจะยังไงต่อไป”..

ขอบคุณภาพประกอบ : อนุชิต กุลศรี