สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ว่า นายกุสตาโว เปโตร สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 34 ของโคลอมเบีย ในพิธีซึ่งจัดขึ้นที่จัตุรัสโบลิวาร์ ในกรุงโบโกตา เมื่อวันอาทิตย์ ท่ามกลางประชาชนมากกว่า 100,000 คน ที่ร่วมเป็นสักขีพยาน รวมถึง สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปน และผู้นำประเทศในลาตินอเมริกาอีกอย่างน้อย 9 คน


ทั้งนี้ เปโตร วัย 62 ปี ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ นักการเมือง และอดีตสมาชิก “แนวร่วมเคลื่อนไหวเอ็ม-19” หนึ่งในกองกำลังปฏิวัติติดอาวุธของโคลอมเบีย ในช่วงยุคทศวรรษที่ 1970 สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำฝ่ายซ้ายคนแรกของประเทศ หลังชนะการเลือกตั้งรอบชิงดำ เมื่อปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยรับตำแหน่งต่อจากนายอีวาน ดูเก ซึ่งไม่สามารถลงสมัครได้อีก ด้วยข้อจำกัดในรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดเงื่อนไขการดำรงตำแหน่งผู้นำได้เพียงสมัยเดียว หรือ 4 ปี

นางฟรานเซีย มาร์เกซ แสดงความยินดีกับประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร ระหว่างพิธีสาบานตน ที่กรุงโบโกตา


นอกเหนือจากผู้นำฝ่ายซ้ายคนแรกในประวัติศาสตร์ โคลอมเบียยังมีรองผู้นำผิวสีคนแรกด้วย นั่นคือ นางฟรานเซีย มาร์เกซ วัย 40 ปี และเธอจะถือเป็นรองประธานาธิบดีหญิงคนที่สองในประวัติศาสตร์ของโคลอมเบีย ต่อจากนางมาร์ตา ลูเซีย รามิเรซ รองผู้นำคนก่อนหน้า

ชาวโคลอมเบียร่วมชมพิธีสาบานตนของผู้นำประเทศคนใหม่ จากทีวีจอยักษ์ กลางจัตุรัส ในกรุงโบโกตา


อนึ่ง เปโตรให้คำมั่นฟื้นการเจรจาสันติภาพกับกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติ (อีแอลเอ็น) ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏฝ่ายซ้ายขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโคลอมเบีย และเป็นกองกำลังติดอาวุธเพียงกลุ่มเดียว ที่ยังคงปฏิบัติการอยู่ และเรียกร้องการแก้ไขแผนยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ เพื่อปราบปรามยาเสพติด โดยวิจารณ์ว่า แผนการปัจจุบันที่นำโดยสหรัฐ “ไม่ได้ผล”


ขณะเดียวกัน ผู้นำคนใหม่ของโคลอมเบียกล่าวถึงการต่อสู้กับความยากจนในประเทศ ที่ประชากรครึ่งหนึ่งยังมีคุณภาพชีวิตต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจนของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ปัจจุบัน โคลอมเบียมีประชากรประมาณ 50 ล้านคน.

เครดิตภาพ : REUTERS