เมื่อวันที่ 16 มี.ค. พ.ต.ท.กุศล สิทธิขันแก้ว สว.(สอบสวน)สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุมีผู้หญิงผูกคอเสียชีวิตในบ้านพัก เลขที่ 230 ม.1 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ที่บริเวณห้องครัวหลังบ้าน พบศพ น.ส.ไทย พรมมัชชะ อายุ 66 ปี เจ้าของบ้าน ใช้เชือกไนล่อนสีเขียวผูกคอตัวเองกับขื่อ ญาติได้ช่วยกันนำร่างลงมาปั้มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต แต่ก็ไม่ทันการ แพทย์เวรระบุเสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจมาแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง

โดยมีสามีและลูกสาวผู้เสียชีวิต รวมทั้งญาติพี่น้อง ชาวบ้าน ที่ทราบข่าวต่างพากันมามุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากการสอบสวน และชันสูตรของร้อยเวรและแพทย์ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ญาติไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตจึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศล โดยใช้บ้านที่เกิดเหตุเป็นที่ตั้งศพ เพื่อสวดอภิธรรมตามประเพณีท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้อง

ด้าน น.ส.น้ำฝน มีสี อายุ 35 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนออกไปทำธุระข้างนอกปล่อยให้แม่อยู่บ้านคนเดียว โดยมีช่างมาติดตั้งอินเตอร์เน็ตที่บ้าน ก่อนออกไปแม่ก็นั่งเล่นอยู่แคร่ไม้หน้าบ้าน พอตนกลับเข้ามาก็ไม่เห็นแม่ ถามช่างก็ไม่รู้ว่าแม่ไปไหนตนจะเดินตามหา จนมาเจอแม่ผูกคอตัวเองที่ครัว ตนจึงบอกให้ช่างมาช่วยเหลือแม่แต่แม่ก็สิ้นใจไปแล้ว

“แม่มีโรคประจำตัวหลายโรค และมีอาการทางประสาท พาแม่ไปรักษามาแล้วหลายครั้ง แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น ตนเป็นห่วงแม่จึงลาออกจากงานที่ห้างในเมืองอุดรฯ เพื่ออยู่บ้านทำธุรกิจส่วนตัวและดูแลแม่ไปด้วย แม่เคยบอกว่าเป็นห่วงตนไม่อยากให้ลาออกจากงานกลัวตนเลี้ยงลูกที่ยังเล็ก 1 คน ไม่ไหว และก่อนหน้านี้แม่บอกว่าทองและเงินที่เก็บไว้หายไปอาจจะเป็นอีกสาเหตุที่แม่เครียดเพิ่มเติมและคิดสั้นก็เป็นไปได้” น.ส.น้ำฝน กล่าว

นายสมจิตร มีสี อายุ 62 ปี สามีผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนและภรรยามีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นผู้ชาย ไปทำงานอยู่ จ.หนองบัวลำภู คนเล็กเป็นผู้หญิงอยู่ด้วยกันที่นี่ ก่อนจะเกิดเหตุภรรยาบ่นมาตลอดว่าไม่อยากอยู่อยากฆ่าตัวตาย กังวลเรื่องทองคำและเงินที่หายไปสัปดาห์ที่แล้ว ภรรยามาบอกว่าสร้อยคอทองคำ 1 บาท 1 เส้น 50 สต. 1 เส้น 25 สต. 1 เส้น แหวนทอง 3 วง และเงินอีก 8 พันบาท รวมมูลค่าเกือบ 1 แสนบาท ที่เก็บไว้หัวนอนหายไป

“ตนและลูกก็พากันช่วยหาแต่ก็ไม่พบ ภรรยาคิดว่าลูกสาวจะเอาไป จึงพากันไปสาบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในหมู่บ้าน ลูกก็ยืนยันว่าไม่ได้เอาไป ตนก็เชื่อว่าลูกไม่ทำแบบนั้น พาไปหาหมอดูก็บอกว่า ทองและเงินไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ในบ้านทำให้ตนเชื่อว่าของมีค่าทั้งหมดยังอยู่ในบ้าน เพียงแค่ภรรยาหลงลืมที่เก็บไว้ ซึ่งก็มีแค่ภรรยาและลูกช่วยกันหาอีก แต่ยังไม่เจอ ตนยังไม่ได้ค้นหา หลังเสร็จงานศพก็คิดว่าจะลองหาดูอีกครั้ง เสียใจที่ภรรยาคิดสั้นแต่ก็คิดว่าเกิดจากอาการป่วยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้” นายสมจิตร กล่าว

ขณะที่ น.ส.ศศิพร เจริญเพ็ง อายุ 49 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุก็เห็นผู้ตายนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านตนก็ผ่านไปมาตามปกติ พอทราบข่าวก็รีบมาดู ตกใจไม่คิดว่าคนตายจะทำจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยบ่นให้ฟังว่าเครียดหลายเรื่องทั้งความเจ็บป่วยและเรื่องทองกับเงินหายไป ที่ผ่านมาผู้ตายเล่าให้ฟังว่าเคยคิดสั้นผูกคอมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเชือกขาด ครั้งที่สองลูกสาวมาเห็นและช่วยเอาไว้แต่ก็มาคิดสั้นเป็นครั้งที่ 3 จนเกิดเหตุสลดขึ้น.