เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 ส.ค.ที่อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 24 (Sittra Law Firm) ถนนสาทร นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายตั้ม พร้อมด้วย นางสาวใจบัว ฮิดดิง ดารา-นักแสดงช่อง 7 แถลงเปิดใจกรณีถูกสารวัตรบางพลัดลวนลาม หลังมีการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาอนาจารที่ สน.คันนายาว เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ตามที่เสนอข่าว

นายษิทรา กล่าวว่า ตนได้พาดาราสาวไปแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนในข้อหาอนาจารต่อหน้าธารกำนัลเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องความคืบหน้าของคคีนั้นทาง พ.ต.อ.ณเรศ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว เจ้าพื้นที่ที่เกิดเหตุแจ้งว่าทาง พ.ต.ต.นายดังกล่าว ไปรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกับพิมพ์ลายนิ้วมือแล้ว แต่ยังให้การปฏิเสธอยู่ และมีพยานเข้าให้ปากคำอีก 2 ปาก ส่วนเพื่อนของดาราสาวนั้น ยังไม่ให้ความร่วมมือในการเข้าพบพนักงานสอบสวน การเอาผิดเรื่องของวินัยนายตำรวจคนดังกล่าว ทาง บก.น.7 อยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่า จะผิดร้ายแรงถึงขั้นไหน

น.ส.ใจบัว กล่าวว่า วันเกิดเหตุช่วงเวลาตี 1-2 เพื่อนชายซึ่งเป็นคนรู้จักกับตำรวจนายดังกล่าว ได้ชวนไปงานวันเกิดรุ่นพี่ ไปกันทั้งหมด 5 คน แต่ตนตั้งใจว่าจะไปทานข้าวต่อ จึงขอนั่งติดรถเพื่อนไปด้วย จู่ๆ เพื่อนบอกเปลี่ยนแพลนไปบ้านรุ่นพี่คนหนึ่งและเป็นวันที่ฝนตกหนักมาก ซึ่งเป็นบ้านหลังเกิดเหตุ เมื่อไปถึงเจอกับเจ้าของบ้านและตัวของนายตำรวจคนดังกล่าว สวมเสื้อสีเทา จากนั้นก็กินดื่มกันสังสรรค์และพูดคุยกันเล็กน้อย สักพักตนจึงขอกลับบ้าน แต่เพื่อนที่รู้จักกันมาเป็น 10 ปี ได้บอกให้ตนกลับพร้อมกันและให้ไปนอนพักรอที่โซฟาก่อน ซึ่งตนคิดว่าดึกมากแล้วประกอบกับง่วงนอนมาก

กระทั่งตื่นมาช่วงเวลา 9 โมงเช้า รู้สึกว่ามีคนนอนอยู่ข้างๆ และใช้มือมาจับที่หน้าอกตนอยู่ จึงได้สะบัดตัวออกห่าง จากนั้นนายตำรวจดังกล่าวก็ลุกลี้ลุกลนออกไปนั่งโต๊ะกินข้าวตามปกติ ตนจึงทำไรไม่ถูก เมื่อหันมองไปก็ไม่มีเพื่อนอยู่แล้ว ก่อนจะแชตบอกเพื่อนว่าตำรวจคนเสื้อสีเทาเข้ามาลวนลามตน แต่เพื่อนก็คงกลัวบอกเพียงให้ตนตะโกนว่า ไปส่งหน่อยได้ไหม นาทีนั้นคิดแค่ว่าต้องออกไปจากตรงนี้ให้ได้ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะรู้ว่ามีตำรวจอยู่ที่นี่ เลยคิดว่าไม่มีใครจะทำอะไรเราได้ “ที่ตนออกมาพูดเพราะสภาพจิตใจเริ่มดีขึ้นแล้ว และไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อแบบนี้อีก”

น.ส.ใจบัว กล่าวด้วยว่า ตนรู้สึกแย่กับเหตุการณ์นี้และโทษตัวเองมาตลอดว่าดูแลตัวเองไม่ดี และไว้ใจเพื่อนมากเกินไป ซึ่งไม่คิดว่าคนที่กระทำจะเป็นตำรวจอีกด้วย หลังเกิดเหตุตนโทรฯ เล่าเหตุการณ์นี้ให้ฟังแต่เพื่อน หลังจากนั้นก็ไม่ติดต่อกันอีกและเพื่อนก็ไม่มาเป็นพยานให้ด้วย ทำให้เริ่มสงสัยในตัวเพื่อน ซึ่งทางคุณแม่ก็ถามว่าทำไมเพื่อนถึงกลับไปก่อนและทิ้งเราไว้แบบนี้ ส่วนความสัมพันธ์คงจบแล้ว

น.ส.ใจบัว ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่ตนทำคิดว่าถูกแล้วส่วนเรื่องกฎหมาย หรือวินัยตำรวจ ตนอาจจะไม่เข้าใจ แต่สิ่งที่คาดหวังคืออยากให้ตำรวจคนดังกล่าวยอมรับผิด ที่ตนออกมาพูดมีแต่ตนเสียหาย จากการมีข่าวว่าถูกกระทำอนาจาร ซึ่งไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต ตนถือว่าให้โอกาสมาขอโทษแล้ว ซึ่งพ่อตนเป็นชาวต่างชาติพูดกับตนว่า ทำไมตำรวจมาทำแบบนี้ ตนนั้นทำถูกแล้วไม่ต้องอาย เขาต่างหากที่ต้องอายที่ทำแบบนี้

“อยากให้ตำรวจนายดังกล่าวออกมายอมรับผิด” น.ส.ใจบัว กล่าว

นายษิทรา ยังกล่าวอีกว่า หลังจากเป็นข่าว ทางผู้ใหญ่ของวงการตำรวจโทรฯ มาสอบถามว่าเรื่องราวเป็นยังไง ซึ่งทางผู้บังคับบัญชายืนยันจะดำเนินการให้ถึงที่สุดและในทุกมิติ สำหรับนายตำรวจ สน.บางพลัด รายนี้ ก่อนหน้านี้เคยเป็นตำรวจ สน.ทองหล่อ แต่ไม่ทราบว่าเคยมีประวัติก่อเหตุลักษณะนี้กับใครมาก่อนหรือไม่