เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่บ้านเลขที่ 265 บ้านห้วยฮวก ต.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู  นายนนท์(นนท์) คำอ่อน แชมป์ดวลเพลงชิงทุน เดินทางมาบ้านเกิดเพื่อทำพิธีบายศรีสู่ขวัญตามคำบอกคำสอนของคนโบราณ ก่อนไปรักษาแชมป์สมัยที่ 32 ในรายการดวลเพลงชิงทุน

บรรยากาศโดยทั่วไปภายในบ้านมีพ่อแม่และญาติพี่น้องพร้อมด้วยนนท์ภรรยา และลูกสาว 2 คนอยู่ภายในบ้านเพื่อเตรียมเข้าสู่พิธีบายศรีสู่ขวัญจากพ่อพราหมณ์ พอหลังจากเสร็จพิธีบายศรีสู่ขวัญเหล่าบรรดาญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือได้ทำพิธีผูกข้อต่อแขนอำนวยอวยพรในขณะเดียวกันมี นายอิ๊ต รัศมีเดือน ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอศรีบุญเรือง

นายศรายุทธ ศิริสถิตย์  ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู ดร.นิคม แสนบัว ส.อบจ.หนองบัวลำภู รวมถึงนายชยภัทร์ ยางศรี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยฮวกจอมทอง ที่นนท์ เคยศึกษาเล่าเรียน และนายสุวิชัย แก้วจันดา อาวทิดหนวดตรวจข่าว ดีเจชื่อดัง มามอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจและชื่นชมในฐานะคนศรีบุญเรืองที่สร้างประวัติศาสตร์ในวงการเพลงให้คนทั่วโลกได้รับรู้ว่าจังหวัดหนองบัวลำภู มีดีในหลายๆอย่าง

นนท์ กล่าวว่า  ครอบครัวตนเองก็เหมือนกับครอบครัวทั่วไป ของคนในชนบทหาเช้ากินค่ำพ่อแม่มีอาชีพทำนา หลังจากทำนาก็สานกระติบข้าว(ก่องข้าว)ที่ปัจจุบันทุกหลังคาเรือนสานกระติบข้าวเป็นอาชีพหลัก ของชาวบ้านห้วยฮวกในเวลานี้ หลังจากจบการศึกษาชั้น ม.3 เพื่อนๆก็ชวนไปอยู่กับคณะหมอลำคณะเล็กๆ ในอำเภอเป็นหมอลำขอข้าว ซึ่งในอดีตจะเห็นคณะหมอลำขอข้าวเป็นอาชีพหนึ่ง

หลังจากนั้นก็ไปสมัครอยู่ในคณะหมอลำรัตนศิลป์อินตาไทยราษฏร์ ในช่วงที่อยู่ในวงหมอลำ ทำเป็นทุกอย่างที่หัวหน้าคณะให้ทำ และอยู่ไปไม่นานหัวหน้าคณะได้ให้รับบทบาทเป็นพระเอกหมอลำ อยู่ไม่นานก็ไปคัดเลือกทหารเกณฑ์และจับได้ใบแดง เป็นทหารเกณฑ์สังกัดทหารเรืออยู่ 2 ปี แล้วกลับมาอยู่กับคณะหมอลำรัตนศิลป์อินทร์ตาไทยราษฏร์ ได้ 2 ปี

จากนั้นได้ลาออกจากคณะหมอลำเพื่อมาช่วยภรรยาขายของใน อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ขณะที่กำลังค้าขายพอไปได้ ต้องมาเจอวิกฤติโควิด-19 ทำให้สินค้าประเภทผักเกิดเน่าเสียขาดทุนอย่างย่อยยับ จากนั้นหันมาขายสินค้าประเภทขนมปี๊ปที่คิดว่าไม่เน่าเสียง่าย และปรับเปลี่ยนอาชีพไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายไม่มีเงินจะลงทุนค้าขายต่อจึงจำเป็นต้องปรึกษาครอบครัวหันไปกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายในการทำธุรกิจ เจอวิกฤติโควิด-19 และดอกเบี้ยรายวันทำให้ ต้องตัดสินใจว่าจะทำอาชีพอะไรที่จะได้เงินมาใช้หนี้รายวันให้เร็วๆ แต่ตนเองมีพรสวรรค์ในการร้องเพลงและหมอลำ จึงไปสมัครเข้าร่วมแข่งขันในรายการดวลเพลงชิงทุน  กะว่าจะได้เงินเร็ว รอแล้วรอเล่าเกือบหมดความหวังเกือบ 3 ปี ทางรายการจึงเรียกไปเข้าร่วมรายการและเข้าแข่งขันจนชนะคู่ต่อสู้คนแล้วคนเล่า จนมาถึงคนที่ 32 ทำให้ตนเองป้องกันแชมป์สมัยที่ 32ไว้ได้เพื่อจะก้าวต่อไป

ในขณะที่ยอดเงินสะสมในรายการ ณ วันนี้สะสมไปถึง 990,000 บาท ซึ่งเป้าหมายตนเองอยากถึงล้านเพื่อมาใช้หนี้และทดแทนบุญคุณพ่อแม่ และทำธุรกิจตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ใน

ขณะที่ตั๊กภรรยาของนนท์ ขอให้นนท์ ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีมาจนถึงทุกวันนี้ และขอแรงใจแรงเชียร์พี่น้องชาวจังหวัดหนองบัวลำภู และชาวไทยทุกได้ให้กำลังใจกับนนท์ฯในวงการบันเทิงต่อไป