เมื่อศาลรัฐศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ รับคำร้อง รับคำร้อง “วาระ 8  ปี” ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ฝ่ายค้านยื่นผ่านประธานรัฐสภามาให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความไว้วินิจฉัย ด้วยมติ 9 ต่อ 0 และ ให้นายกรัฐมนตรี “หยุดปฏิบัติหน้าที่”  ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. เป็นไป จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยภายใน 1 เดือน ด้วยมติ 5 ต่อ 4 ส่งผลทำให้ “บิ๊กตู่” ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี แต่ยังสามารถทำหน้าที่ รมว.กลาโหมได้ และทำให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 1 เลื่อนขึ้นมาเป็น รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีสถานะทุกอย่างเทียบเท่ากับนายกรัฐมนตรี มีอำนาจในการ ยุบสภา-ปรับ ครม.-โยกย้าย แบบเต็มร้อย

อีกทั้งในช่วงเดือนสำคัญ คือ ส.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของฤดูกาลโยกย้ายข้าราชการ ถึงแม้ว่าล่าสุด ครม. วันที่ 23 ส.ค.จะมีมติแต่งตั้งโยกย้าย “ผู้ว่าฯ -อธิบดี” 37 ตำแหน่ง แต่ก็ยังมีลอตสำคัญๆ อีก เช่น รองผู้ว่าฯ นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ขณะที่การแต่งตั้งโยกย้าย “คนมีสี” อย่างทหาร และตำรวจ ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งในส่วนของโผทหาร นั้น “บิ๊กตู่” ในฐานะ รมว.กลาโหม ก็ยังสามารถทำหน้าที่และนั่งหัวโต๊ะได้ตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่วางโครงสร้างไว้คือ รมว.กลาโหม รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงเป็นประธาน เป็นผู้พิจารณาจัดแจงขุมกำลังเหล่าทัพเอาไว้ 

ขณะที่ “โผตำรวจ” ที่ คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) และประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ซึ่งจะมีการประชุมแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับ ผบ.ตร.-ผบก.วาระประจำปี 2559 ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ น่าสนใจตรงที่ขั้วอำนาจที่จะพิจารณา ได้ถูกเปลี่ยนจาก “บิ๊กตู่” ไปอยู่ในอำนาจของ “บิ๊กป้อม” รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี จะทำหน้าที่เป็น ประธาน ก.ต.ช. และ ก.ตร. ในการแต่งตั้งได้

ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนขุมกำลังอำนาจ ทั้ง “ทหาร -ตำรวจ-มหาดไทย” ในช่วง 1 เดือนจากนี้ไป ที่ “บิ๊กป้อม” มีอำนาจเต็ม เพื่อวางฐานสำหรับการเลือกตั้งปี 66 จะต้องมีการจัดวางขุมกำลังใหม่ เมื่อขั้วอำนาจเปลี่ยนหรือไม่ และ “บิ๊กป้อม” จะส่งสัญญาณอย่างไรต่อพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าจะต้องมีการปรับ ครม. ขณะที่ ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐเอง ที่มีความระส่ำภายในพรรค จะอยู่หรือไป ก็ต้องรอลุ้นเช่นกัน

เพราะถ้า “บิ๊กตู่” รอด-ไม่รอด จากศาลรัฐธรรมนูญ เกมการเมืองเปลี่ยนแน่นอน?? ถ้ารอด ก็จะอยู่ต่ออีก 2 ปี ก็ต้องดูว่า “บิ๊กตู่” จะไปไหน จะยังคงอยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อ หรือไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ถ้า “บิ๊กตู่” ไม่รอด ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จะระส่ำหรือไม่ จะมี ส.ส.ย้ายออกเท่าไหร่ รวมถึงความสัมพันธ์ “3 ป.” จะเป็นอย่างไร และยังมี “บิ๊กดีล” ของ ป. คนที่ 4 กับ นายกฯ ดูไบ พรรคเพื่อไทย จะเป็นพันธมิตรทางการเมืองตามที่มีข่าวมาก่อนหน้านี้ หรือไม่ 

ดังนั้นในช่วง 1 เดือนจากนี้ ต้องจับตาดู การวางขุมอำนาจที่เปลี่ยนมือจาก “บิ๊กตู่” มาที่ “บิ๊กป้อม” จะสร้างรอยร้าวมากน้อยแค่ไหน เพราะแม้อำนาจจะยังอยู่ในมือ “3 ป.” แต่ความสัมพันธ์มันไม่เหมือนเดิมแล้ว!!