ตามที่ “เดลินิวส์” ตีแผ่โครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา หรือ อควาเรียมหอยสังข์ ภายในวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งก่อสร้างไม่เสร็จ ถูกทิ้งร้างนาน 14 ปี จนทำให้สูญเสียงบประมาณโดยใช่เหตุกว่า 1,400 ล้านบาท กลายเป็นประติมากรรมแห่งการทุจริตที่ถูกกล่าวถึงในเชิงลบอย่างมาก แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะเคยสั่งสอบสวนข้อเท็จจริงตั้งแต่ปี 61 จนมีการเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่วนกลาง เข้าดำเนินการ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการดังกล่าว ว่า ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดที่มีนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานฯ ได้สรุปสำนวนพร้อมความเห็นส่งให้กับ ป.ป.ช. เพื่อให้ไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว

นายนิวัติไชย กล่าวต่อว่า โดยมีการขอทราบข้อเท็จจริงจากต้นสังกัดและมีการส่งข้อมูลกลับมาแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างวิเคราะห์ข้อมูลว่าสิ่งตรวจสอบมาฟังได้หรือไม่ได้ ซึ่งเท่าที่ทราบยังไม่พบว่ามีมูล แต่อย่างไรก็ตามหากพบว่ามีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ถูกต้องก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

“เรื่องลักษณะนี้ ป.ป.ช.ต้องลงไปตรวจสอบว่าเป็นจริงอย่างที่เขาพูดหรือไม่ งานที่มีการขยายเวลาออกไปเรื่อยๆ มีปัญหาอุปสรรคอะไร เช่น ผู้รับจ้างทิ้งงาน หาผู้รับจ้างไม่ได้ งบประมาณก็ขอกันไว้ทุกปี ซึ่งเรื่องแบบนี้อาจเป็นปัญหาการทำงาน แต่ถ้ามีการทุจริตต้องดูว่าการเสนอราคามีการฮั้วกันไหม ผู้รับจ้างเป็นใคร มีการให้ผลประโยชน์กันหรือไม่ เป็นต้น” เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าว.