เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกระแสทางโลกโซเชียล แต่แชร์ภาพหญิงสาวรายหนึ่ง นั่งขายไข่เจียวริมทางตอนกลางคืน พร้อมกับระบุเรื่องราวคร่าวๆ ว่า พบหญิงสาวคนนี้มานั่งขายข้าวไข่เจียวริมทางเป็นวันแรก และสอบถามทราบว่า เจ้าตัวพูดไม่ชัดเพราะป่วยเป็นมะเร็ง ต้องตัดลิ้น และมีลูกที่ต้องเลี้ยงดูป่วยเป็นมะเร็งเช่นกัน โดยได้มาตั้งขายข้าวไข่เจียวบริเวณดังกล่าวช่วงเวลา 4 ทุ่มจนถึงตี 2 ซึ่งต่อมาเมื่อเรื่องราวนี้ปรากฏบนโซเชียล ได้มีคนแชร์โพสต์ดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งให้กำลังใจหญิงคนดังกล่าว รวมทั้งบางรายตั้งใจจะมาอุดหนุนตามร้านที่ตั้งขายอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวจะได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริเวณริมถนนเชียงใหม่-ลำปาง ก่อนถึงสี่แยกศาลเด็ก ที่เคยพบว่า ได้มีหญิงสาวดังกล่าวมาตั้งร้านขายไข่เจียว พร้อมกับสามี และลูกสาวกับลูกชายอีก 2 คน โดยทั้งคู่ได้ช่วยกันนำเอาข้าวของอุปกรณ์ใส่ท้ายรถกระบะ มายังบริเวณดังกล่าว พร้อมทั้งได้ช่วยกันตั้งร้าน โดยมีประชาชนและคนที่ทราบเรื่องราวต่างพากันตามมารออุดหนุนกันเป็นจำนวนมาก

จากการสอบถามทั้งคู่ทราบชื่อคือ นายวราวุธ เทพจันทร์ อายุ 45 ปี และนางผ่องศรี พรมจันทร์ อายุ 37 ปี ส่วนลูกอีก 2 คน ทราบว่า ลูกสาวอายุ 6 ขวบ และลูกชายอายุ 11 ขวบ

ด้านนายวราวุธ กล่าวว่า ตนมีอาชีพไรเดอร์ขี่รถส่งอาหาร แต่ภรรยาป่วยเป็นมะเร็งที่ช่องปาก ทำให้ต้องรักษาตัวและต้องตัดลิ้นจึงทำให้ภรรยาพูดไม่ค่อยชัด ซึ่งภรรยาก็พักรักษาตัวมาประมาณ 1 ปี จนตอนนี้อาการดีขึ้น นอกจากนี้ลูกชายวัย 11 ขวบ ก็ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะที่ 4 ด้วยเช่นกัน โดยที่ผ่านมาได้พักรักษาตัวมาประมาณ 1 ปี และเพิ่งหมดคอร์สให้คีโมมาได้ราวๆ 2 เดือน ลำพังเพียงอาชีพไรเดอร์ขี่รถส่งอาหารของตนเพียงคนเดียวก็ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายของครอบครัว เมื่อภรรยาของตนหายดี จึงอยากที่จะแบ่งเบาภาระ โดยก่อนหน้านี้ทางภรรยาก็ได้รับทำข้าวไข่เจียวขายที่บ้าน โดยผ่านโซเชียล เพื่อหารายได้แบ่งเบาภาระครอบครัว แต่ก็ไม่ค่อยมีคนสั่ง จึงอยากออกมาขายเอง และที่มาเปิดขายตรงบริเวณนี้

อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีกระแสเรื่องราวของภรรยาปรากฏในโซเชียล ตนก็ไม่คิดไม่ฝันเลยว่า จะได้รับการตอบรับและมีคนให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนก็อยากขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยกันแชร์เรื่องราวของภรรยา และขอบคุณที่มาอุดหนุนข้าวไข่เจียวของภรรยา ซึ่งขณะนี้ตนตั้งใจว่าจะให้ภรรยามาขายตามที่ต้องการ โดยตนจะมาส่งในช่วงกลางคืนเวลาประมาณ 4 ทุ่ม เนื่องจากไม่อยากให้ภรรยาขนของมาเองลำพัง

ขณะที่ทางด้านหนึ่งในลูกค้าที่มาอุดหนุน บอกว่า ได้เห็นเรื่องราวของพี่ผู้หญิงบนโซเชียล ที่มีการแชร์ต่อๆ กันมา จึงเกิดความเห็นใจ เพราะเห็นว่าเจ้าตัวก็ป่วยเป็นโรคมะเร็ง จึงอยากมาช่วยอุดหนุน โดยตนได้ตั้งใจมารอตั้งแต่ยังไม่ตั้งร้าน และวันนี้ทางพี่ผู้หญิงก็มาช้านิดหน่อย แต่ก็ดีใจที่มารอแล้วยังได้อุดหนุนอยู่