หลังจากมีชาวบ้านส่งข้อมูลมาทางเดลินิวส์ ช่วยลงไปดูการก่อสร้างมาราธอน อีกโครงการหนึ่งของภาครัฐ คือ การก่อสร้างสนามฟุตบอล ภายในศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เบื้องต้นพบว่า โครงการก่อสร้างมายาวนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 งบประมาณกว่า 774 ล้านบาท แต่สนามบอล พร้อมอัฒจันทร์ 2 หมื่นที่นั่ง ตอนนี้หยุดชะงักอีกครั้ง ทั้งด้านนอก-ในสนาม มีหญ้าสูง วัชพืชขึ้นเต็มไปหมด ล่าสุดทางสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยฯ เตรียมประชุมหารือด่วนหลังจากทราบข่าว เพราะมีแผนจะใช้เป็นสนามแข่งกรีฑาชิงแชมป์เอเชีย ในปี 2566 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ ศาลาว่าการเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ ได้สัมภาษณ์ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา หรือนายกเบียร์ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับตำแหน่งนายกเมืองพัทยา เข้ามาทำงานได้ 3 เดือนแล้ว โครงการนี้ เป็นอีก 1 ปัญหาที่ทางกลุ่มรักพัทยา นำมาใช้ในการหาเสียงเช่นกัน เพื่อมุ่งหวังจะหาทางแก้ไขให้สำเร็จลุล่วงให้จงได้ สำหรับโครงการก่อสร้างดังกล่าว จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง เบื้องต้นพบว่าได้แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะ ด้วยงบประมาณ 774 ล้านบาท

โดยในระยะที่ 1 เป็นการดำเนินงานปรับพื้นที่ภายในโครงการ พร้อมโครงสร้างอัฒจันทร์สนามฟุตบอล ฝั่งตะวันออก (5,000 ที่นั่ง) รวมไปถึงงานปรับพื้นสนามฟุตบอล ด้วยงบประมาณปี 2551-2553 จำนวน 89.5 ล้านบาท ซึ่งดำเนินแล้วเสร็จในปี 2554 ต่อมาระยะที่ 2 เมืองพัทยาได้ขอรับการสนับสนุนความร่วมมือไปยังกองทัพบก เพื่อดำเนินการก่อสร้าง โดยทำบันทึกข้อตกลงกับกองทัพภาคที่ 1 โดยกองพลพัฒนาที่ 1 (กรมทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์) เป็นผู้ดำเนินการ ด้วยงบประมาณ ปี 2557-2560 จำนวน 537 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างอัฒจันทร์ฝั่งประธาน (10,000 ที่นั่ง) พร้อมทั้งงานระบบไฟฟ้า น้ำประปา ฯลฯ แม้จะพบปัญหาด้านภูมิศาสตร์ และปฐพีศาสตร์ กล่าวคือ บริเวณที่ตั้งโครงการ เป็นช่วงเนินเขา พื้นด้านล่างเป็นแผ่นหินแกรนิตขนาดใหญ่ การก่อสร้างต้องใช้เทคนิคพิเศษ รวมทั้งลู่วิ่งมาตรฐาน แต่การทำงานระยะที่ 2 ก็มีความคืบหน้าไปถึง 70%

สำหรับระยะ 3 เป็นการก่อสร้างโครงหลังคาฝั่งอัฒจันทร์ ฝั่งประธาน งานก่อสร้างอัฒจันทร์ฝั่งทิศเหนือ (2,500 ที่นั่ง) และฝั่งทิศใต้ (2,500 ที่นั่ง) งานถนน ที่จอดรถ ระบบระบายน้ำภายนอกอาคาร และงานครุภัณฑ์ ด้วยงบประมาณปี 2561-2564 จำนวน 398 ล้านบาท ได้ทำสัญญาจ้างเอกชนตามระบบ E-Bidding ให้ผู้รับเหมาที่ได้งานเข้ามาดำเนินการก่อสร้าง โดยได้เบิกจ่ายไปแล้ว 12 งวด 143.2 ล้านบาท แต่เกิดปัญหาผู้รับจ้างทิ้งงานไป ทำให้การก่อสร้างระยะ 3 ล่าช้า ไม่เป็นไปตามที่กำหนด ซึ่งเมืองพัทยาเองก็ได้ดำเนินการตามสัญญา โดยยึดเงินประกัน 10% จำนวน 38 ล้านบาท พร้อมฟ้องเรียกค่าปรับอีก 80 ล้านบาท ขณะนี้ได้เงินประกันคืนแล้ว 19 ล้านบาท ยังเหลืออีก 61 ล้านบาท ยังอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการทางกฎหมาย

นอกจากนี้ การประชุมคณะกรรมการประเมินงานโครงการก่อสร้าง สนามฟุตบอลสนามกีฬาภาคตะวันออก เมืองพัทยา เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 65 เพื่อสรุปผลการประเมินโครงการ ซึ่งผู้บริหารเมืองพัทยา ได้เห็นชอบตามมติคณะกรรมการฯ ที่พิจารณาที่จะจ้างใหม่ เมืองพัทยาจึงจำเป็นต้องเสนองบประมาณเพิ่มเติม เป็นงบผูกพัน 3 ปี (2565-2567) เพื่อให้การก่อสร้างต่อเนื่องจากระยะที่ 3 ได้แล้วเสร็จ เป็นจำนวนเงิน 249 ล้านบาท ซึ่งต้องเสนอขอรับความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาเมืองพัทยาก่อน จากนั้นจึงจะดำเนินงานต่อในทันทีในช่วงต้นปี 2566 คาดว่าใช้เวลาก่อสร้างอีกประมาณ 2 ปี

นายกเมืองพัทยา กล่าวทิ้งท้าย ขอย้ำว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อหาแนวทางเร่งรัดติดตามและผลักดันให้โครงการประสบผลสำเร็จโดยเร็ว ทราบว่าที่ผ่านมา ทางคณะผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้เคยมาตรวจความคืบหน้าศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออกฯ ตั้งแต่ปี 2562 กกท. มีนโยบายจะผลักดันให้ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ในปี 2569 ซึ่งได้เสนอต่อคณะกรรมโอลิมปิกสากลไปแล้ว ซึ่งก็ตรงกับทางเมืองพัทยาที่ต้องการพัฒนาให้เป็น Sport Tourism อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นจึงต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จภายใน 2 ปีนี้ให้ได้.