นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ปี 2022 รถยนต์แบบคอมแพ็คเอสยูวีรุ่นที่ 2 ติดตั้งเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ เจเนอเรชั่น 2 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนรถยนต์ด้วยระบบไฟฟ้า 100% อีกรูปแบบที่มีจุดเด่นตรงที่ไม่ต้องพึ่งพาการชาร์จพลังงานไฟฟ้าจากภายนอกมาเก็บไว้ในแบตเตอรี่ แต่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เองและยังมีสมรรถนะการขับที่เสมือนรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีสมรรถนะสูงขึ้นกว่ารุ่นก่อนอีกด้วย

สำหรับคิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ ที่นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จัดเตรียมมาให้ทาง “เดลินิวส์” ได้ทดลองขับในครั้งนี้เป็นรุ่นออเทค (AUTECH) ซึ่งเป็นตัวท็อปของรุ่นที่จะมาพร้อมกับการตกแต่งทั้งภายในและภายนอก จากสำนักแต่งออเทค เจแปน บริษัทในเครือของนิสสัน มอเตอร์ ที่มีชื่อเสียงในด้านงานออกแบบสไตล์ สปอร์ต พรีเมียม

การออกแบบรูปทรงภายนอกคงเน้นให้ตัวรถมีรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ต เท่ หรูสไตล์พรีเมียมทูโทนเอกลักษณ์ของรุ่นออเทคด้วยหลังคาสีดำเงาและการออกแบบแนวเส้นหลังคาแบบทรงลอยตัว โดยในรุ่นออเทคมีสีตัวถังภายนอกที่มาพร้อมหลังคาสีดำ 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน ไนท์บลู สีเทากันเมทาลิก สีขาวสตอร์มไวท์ และสีดำแบล็ก สตาร์ และเติมความสปอร์ตพรีเมียมด้วยกระจังหน้าแบบวี-โมชั่น พร้อมไฟหน้ากับไฟตัดหมอกแบบแอลอีดี พร้อมวัสดุตกแต่งไฟตัดหมอกคู่หน้าที่ออกแบบมาให้รับกับสเกิร์ตหน้าใหม่ สีเงินเมทัลลิก ทำให้ดูโฉบเฉี่ยวเช่นเดียวกับด้านข้าง ที่มาพร้อมสเกิร์ตข้างใหม่ สีเงินเมทัลลิก

ส่วนที่ชายล่างของตัวรถและซุ้มล้อทั้ง 4 ด้านติดคิ้วยางกันกระแทกสีดำ ที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมลุยแบบรถครอสโอเวอร์ ประตูคู่หน้าเปิดปิดระบบล็อกด้วยกุญแจรีโมตอัจฉริยะ พร้อมทั้งติดตั้งระบบกันขโมยแบบ Immobilizer กระจกมองข้างสีเงินเมทัลลิก พร้อมไฟเลี้ยวแอลอีดีปรับและพับได้ด้วยระบบไฟฟ้าและล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่สีดำเงา ขนาด 17 นิ้ว ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้ายแบบแอลอีดี ทรงบูมเมอแรง ประตูท้ายออกแบบให้มีขนาดใหญ่เพื่อความสะดวกในการยกสัมภาระเข้าออก กันชนหลังตกแต่งด้วยสเกิร์ตหลังใหม่สีเงินเมทัลลิก

ภายในห้องโดยสารกับแผงคอนโซลหน้าตกแต่งด้วยโทนสีดำและสีน้ำเงิน (สีน้ำเงินเข้มเป็นสีเอกลักษณ์ของสำนักแต่งออเทค เจแปน) ส่วนที่คอนโซลกลางตกแต่งด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์สีดำและเดินด้ายสีน้ำเงินที่เข้ากันอย่างลงตัว พร้อมทั้งเสริมอารมณ์สปอร์ตด้วยวัสดุสีดำเงาเปียโน แบล็ก หน้าจอที่กลางคอนโซลเป็นแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ใช้ควบคุมระบบอินโฟเทนเมนต์ นิสสัน คอนเนค รองรับการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนผ่านแอนดรอยด์ ออโต้ และ แอปเปิล คาร์เพลย์ และรองรับระบบเชื่อมต่อบลูทูธ, ยูเอส บี และเอยูเอ็กซ์-อิน พร้อมระบบนำทางผ่าน Google Map และระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะพร้อมลำโพงคุณภาพสูง 6 ตำแหน่ง

พวงมาลัยแบบเพาเวอร์ไฟฟ้า ยังคงใช้แบบ 3 ก้านทรง D-Shape ปรับได้ 4 ทิศทาง หุ้มด้วยหนังแท้สีดำกับสีน้ำเงินและเดินด้ายสีน้ำเงิน จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ TFT อัจฉริยะขนาด 7 นิ้ว ที่เพิ่มฟังก์ชันการแสดงสถานะไฟเบรกระหว่างใช้ระบบอี-เพดดัล สเต็ป (e-Pedal Step) กระจกมองหลังมีหน้าจอแอลซีดีที่แสดงภาพจากกล้องมุมกว้างด้านหลังตัวรถช่วยเสริมความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ ในกรณีที่มีการบรรทุกสัมภาระหรือมีผู้โดยสารนั่งด้านหลัง

คอนโซลเกียร์และหัวเกียร์ออกแบบใหม่กับตกแต่งพื้นด้วยวัสดุสีดำเปียโนแบล็ก พร้อมไฟแอมเบี้ยนไลท์โดดเด่นสะดุดตาขึ้นนอกจากนี้ยังเพิ่มวัสดุบุนุ่มภายในถึง 3 จุด คือที่เท้าแขนตรงคอนโซลกลาง ขอบเบาะนั่งและช่องเก็บของด้านหน้า และยังมีการเพิ่มขนาดพื้นที่วางแก้วน้ำตอนหน้า 2 ตำแหน่ง ที่สามารถปรับระดับและขนาดเพื่อรองรับแก้วทรงสูงที่มีขนาดใหญ่ และแก้วกาแฟร้อน

ชุดเบาะนั่งแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง เบาะคู่หน้านั่งสบายและอยู่ในตำแหน่งที่สูงช่วยให้มีมุมโดยรอบที่กว้างไกล การปรับท่านั่งเป็นกลไกเฉพาะด้านคนขับสามารถปรับสูง/ต่ำได้ด้วย ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ เบาะแถว 2 มีพื้นที่กว้างขวางนั่งได้ 3 คนอย่างสบาย ๆ เพราะอุโมงค์กลางพื้นรถต่ำจึงไม่เป็นปัญหากับคนนั่งกลาง แต่คงจะดีขึ้นอีกมาก ถ้าทำช่องแอร์ด้านหลังกับที่เท้าแขนหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำมาให้ด้วย พนักพิงหลังพับลงได้แบบ 60/40 ห้องเก็บสัมภาระหลังมีความจุ 423 ลิตร ลึก 90 ซม. จุของได้เยอะดี และมีม่านบังตามาให้ด้วย

สำหรับเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงรอบคันหรือ Nissan360° Safety Shield ที่นิสสันใส่เพิ่มเข้ามาในรุ่นใหม่มีอยู่ 2 ระบบคือเทคโนโลยีแจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาแนวการเดินรถในช่องทาง และแจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ เมื่อขับขี่ในระดับความเร็วสูงกว่า 70 กม./ชม. กับระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติที่ปรับระดับการส่องสว่างของไฟหน้า พร้อมตรวจจับและตอบสนองความเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของรถที่วิ่งสวนทางแบบอัตโนมัติ

ส่วนเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ เจเนอเรชั่น 2 มีการปรับปรุงสมรรถนะให้สูงขึ้น โดยใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนรุ่นใหม่ (EM47) ที่มีกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 129 แรงม้า เป็น 136 แรงม้า ส่วนแรงบิดก็เพิ่มขึ้นจาก 260 นิวตัน-เมตร เป็น 280 นิวตัน-เมตร กับออกแบบให้อินเวอร์เตอร์มีขนาดเล็กลง 40% น้ำหนักลดลง 30% และเพิ่มความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมากขึ้นจาก1.57 เป็น 2.06 kWh ช่วยให้เครื่องยนต์มีการทำงานเพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าน้อยครั้งลงลดแรงสั่นสะเทือน

ระบบขับเคลื่อนมีโหมดให้เลือกได้ 4 โหมดคือ Normal mode หรือการขับขี่ในแบบปกติที่ให้อัตราเร่งความเร็วดีเยี่ยม Sport mode ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับเคลื่อนและตอบสนองอัตราเร่งและการชะลอความเร็วที่ดียิ่งขึ้น ECO mode ที่จะเน้นการออกตัวที่นุ่มนวล และลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองลงสุดท้าย EV mode หรือการขับด้วยระบบไฟฟ้าซึ่งเท่าที่ลองชาร์จไฟไว้ที่ 85% รถจะวิ่งได้ไกลสุด 5 กม. ทีเดียว อีกระบบควบคุมการขับที่เพิ่มเข้ามาใหม่คือ อี-เพดดัล สเต็ป เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกขณะขับช้า ๆ หรือช่วงที่รถติด

โดยรวมข้อดีของระบบอี-พาวเวอร์ เทียบกับระบบไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า 100% ก็คือสามารถวิ่งได้ระยะทางที่ยาวนานกว่า เพราะมีแหล่งสร้างพลังงานไฟฟ้าได้ในตัวเองส่วนในเรื่องสมรรถนะนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ออเทคเป็นรถที่ตกแต่งสวยและมีสมรรถนะการขับที่ดีมากการเร่งออกตัวทำได้ว่องไวพอกับรถยนต์เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แรงบิดสูงสุดก็เป็นแบบคงที่ตลอดเวลา ทำให้มีอัตราเร่งแซงที่รวดเร็วและนิ่มนวลมีเสียงการทำงานที่เงียบในระหว่างการขับเคลื่อน ที่สำคัญคือหมดห่วงเรื่องหาสถานีชาร์จไฟฟ้า.