เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านวังอ้ายป่อง หมู่ 3 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลาน บุกเข้ามาพังบ้านเรือนประชาชนอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ชาวบ้านบางส่วนต้องออกมานอนอยู่ที่วัดเพื่อความปลอดภัย ผู้ใหญ่บ้านและชุด ชรบ. จัดกำลังร่วมกับจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่าออกมาเฝ้าระวังช้างป่าร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน

โดยเจ้าละมุดไปพังครัวของชาวบ้านเพื่อหาของกิน เจ้าของบ้านพาลูกชายวิ่งหนีเอาตัวรอด ขณะกำลังวิ่งมาเพื่อทำกับข้าว ต่อมาพบเจ้าละมุดหักไม้ไผ่กินอยู่ข้างบ้าน ประชาชนจึงแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด เพื่อผลักดันออกจากบ้านประชาชน อึดใจต่อมาเจ้าละมุดพังบ้านคุณยาย เจ้าหน้าที่รีบนำตัวคุณยายวิ่งหนีเจ้าละมุดออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ขณะที่คุณยายวิ่งออกจากบ้านมาตามถนนคอนกรีต บอกว่า วิ่งหนีช้างเกิดมาอายุ 70 กว่าปี เพิ่งเคยเห็นช้าง

นางลัดดาวัลย์ บูรณะ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 363 หมู่ 3 กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ได้ยินเสียงหมาเห่าอยู่หน้าบ้าน ทันใดนั้นลูกชายลองบอกว่า แม่ช้างมา ขณะที่ตนเองกำลังนั่งย่างปลาดุกอยู่ในครัว ทันใดนั้นฝาบ้านพังครืนลงมาหันมาดูอีกทีพบว่าช้างพังฝาในครัวแล้วฉกเอาข้าวสารไปกิน ลูกชายกับสามีพากันวิ่งออกจากบ้านหนีมาเพื่อความปลอดภัย

น.ส.สมฤดี สุบิน ชาวบ้านวังอ้ายป๋อง กล่าวว่า ช่วงเวลา 20.00 น. ได้ยินเสียงเจ้าละมุดอยู่ในสวนหลังบ้าน จึงพากันออกมาดูพบละมุด กำลังยืนกินต้นกล้วยอยู่ในสวน จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และจิตอาสาให้มาช่วยผลักดันช้างป่าออกจากสวนเพื่อความปลอดภัย ชาวบ้านอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการช้างออกจากหมู่บ้านโดยเร็ว และขู่ว่าหากอุทยานแห่งชาติทับลานไม่สามารถจัดการเจ้าละมุดไม่ให้มาทำลายพืชผลและบ้านเรือนประชาชนได้ ชาวบ้านจะรวมตัวกันขับไล่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลานออกจากพื้นที่เนื่องจากไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะช้างป่าทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว 2 ราย ที่ผ่านมาชาวบ้าน ต.ทุ่งโพธิ์ และแก่งดินสอ ได้รับความเสียหายทางพืชผลการเกษตรรวมถึงบ้านเรือนพังเสียหาย.