เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ร.ต.อ.ธนพล แก้วบริวงษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม ลพบุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนวัว มีผู้ได้รับบาดเจ็บและวัวเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายที่ 21 สระบุรี-เพชรบูรณ์ หลักกิโลเมตรที่ 43-44 หมู่ที่ 9 ต.โคกสลุง จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางมืดสนิท พบรถยนต์ยี่ห้อ ฟอร์ดเอเวอเรสต์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 8กฐ 658 กรุงเทพมหานคร ในสภาพด้านหน้าพังยับเยิน อีกคันเป็นรถกระบะ อีซูซุ สีขาวหมายเลขทะเบียน​ บห 6899 เพชรบูรณ์ ในสภาพด้านหน้าพังยับเช่นกัน ใกล้กันพบมีวัวเพศผู้ตัวใหญ่นอนตายอยู่ริมถนนฝั่งขวาร่องกลางถนน ซึ่งในเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ทราบชื่อนายหฤษพล สมจิตรนา หรือ หยอง ลูกหยี อายุ 56 ปี อดีตนายกสมาคมศิลปินตลกแห่งประเทศไทย ชาว อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี  มีอาการเจ็บหน้าอก ปวดศีรษะ จากแรงชนและแรงกระแทกเจ้าหน้าที่ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนแนะนำให้ไปโรงพยาบาล

จากการสอบถามนายสาธิต การสมเกตุ อายุ 38 ปี คนขับรถยนต์ฟอร์ด เล่าว่า เมื่อช่วงค่ำตนเองและหยอง ลูกหยี ได้เดินทางไปร่วมงานวันคล้ายวันเกิดเพื่อนรุ่นน้องในตัวเมืองลพบุรี ก่อนจะเดินทางกลับบ้านพักที่ อ.ชัยบาดาล โดยมีหยอง ลูกหยี นั่งคู่มาทางด้านซ้าย ขณะมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีฝูงวัวประมาณ 10 ตัว วิ่งข้ามถนนในระยะกระชั้นชิด โดยวัวตัวใหญ่ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นจ่าฝูง ได้วิ่งข้ามมาก่อน ตนเองเบรกไม่ทัน รถพุ่งชนวัวจนกระเด็นขวางถนน สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน จึงพยายามจอดชิดซ้าย ท่ามกลางเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากตลกคนดัง  และเพื่อนอีกคนที่อยู่ตอนหลัง ซึ่งได้รับบาดเจ็บ และในขณะที่ตนเองกำลังตกตะลึงกับเหตุการณ์ดังกล่าว ต้องตกใจสุดขีดอีกครั้ง เมื่อรถกระบะที่ขับตามหลังมาด้วยความเร็วอย่างกระชั้นชิดได้หักหลบรถตนเองพุ่งออกขวาชนวัวตัวเดียว ที่นอนดิ้นอยู่กลางถนนอีกคัน เสียงดังสนั่นจนพังยับไปอีกคัน เดชะบุญที่คนขับรถยนต์กระบะที่มา 2 คน คาดเข็มขัดนิรภัย และไม่พุ่งมาชนซ้ำรถของตนเอง

ด้านนายหยอง ลูกหยี กล่าวระหว่างรักษาตัวจากการบาดเจ็บ ว่า อุบัติเหตุครั้งนี้คิดว่าตัวเองคงม้วยเสียแล้ว ตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวมาก ยังดีที่ลูกน้องมีสติตั้งใจชนวัว ดีว่าหักหลบ ไม่เช่นนั้นคงไม่รอดแน่ เพราะถุงลมนิรภัยในรถฟอร์ด ตนเองแตกออกมาทั้งหมดถึง 6 ถุงเลย ประคับประคองรองรับการกระแทกไม่ให้ได้รับบาดเจ็บมากกว่านี้ และเดชะบุญที่รถกระบะไม่เสยซ้ำ อุบัติเหตุครั้งนี้ตนเองเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่ที่เจ็บมากไปกว่านั้นคือประกันภัยรถคันนี้เพิ่งหมดไป และจะต่อประกันภัยในสัปดาห์หน้า แต่ก็มาเจออุบัติเหตุเสียก่อน และที่สำคัญสุดจะเอาผิดกับใครที่ไหนได้ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบเป็นเจ้าของวัวเลย ตอนนี้ก็เลยลำบากเพราะต้องยืมรถแม่มาใช้ชั่วคราว ระหว่างเดินทางไปมา กทม.กับชัยบาดาล ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าจะติดตามเจ้าของวัวให้มารับผิดชอบกับการซ่อมรถให้กับตนเองบ้าง ซึ่งตนเองคงต้องฝากความหวังไว้ด้วย