เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ผู้เสียหาย 2 ครอบครัว เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ รายที่ 1. เด็กสาว อายุ 15 ปี เรียนอยู่ ม.3 เปิดเฟซบุ๊กสาธารณะมีกลุ่มเยาวชนเข้ามาตีสนิทชักชวนพาไปทำงาน อยากหางานทำหารายได้พิเศษช่วยเหลือครอบครัวจึงตกลง กลุ่มวัยรุ่นได้พาทำบัตรประชาชนและเปิดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 1 บัญชี ก่อนที่จะนำข้อมูลบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีออนไลน์เพิ่มอีก 5 บัญชี ต่อมาไม่นานตำรวจออกหมายเรียก 4 จังหวัด แม่ตกใจตรวจสอบการเดินบัญชีลูกพบมีเงินหมุนเวียนผ่านบัญชีร่วม 10 ล้านบาท จึงพาลูกสาวเข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เพราะคาดว่าหลังจากนี้จะมีหมายเรียกจากสถานีตำรวจตามมาอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ กลัวลูกสาวจะหมดอนาคต และครอบครัวไม่มีเงิน วอนขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือครอบครัวด้วย

รายที่ 2. แม่ทำงานปั๊มน้ำมันได้ถูกเพื่อนที่เคยทำงานร่วมกันหลอกให้เปิดซิมมือถืออ้างว่าต้องเปิดโปร แม่ตกลงเปิดโปรซิมมือถือได้เงินซิมละ 100 บาท จึงให้ลูกสาววัย 16 ปี เปิด 6 ซิม ส่วนตนเองกับสามีเปิดอีก 7 ซิม รวมกันเป็น 13 ซิม ต่อมาไม่นานมีหมายเรียกจากสถานีตำรวจ 11 หมาย จาก 11 จังหวัด เช่น กทม. เชียงใหม่ ภูเก็ต พะเยา พิษณุโลก ระยอง พังงา และอีกหลายพื้นที่ จึงพาลูกสาวเข้าแจ้งความ และขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เพราะคาดว่าหลังจากนี้จะมีหมายเรียกจากสถานีตำรวจตามมาอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า น่าเป็นห่วงเด็กและเยาวชน เพราะขบวนการมิจฉาชีพพุ่งเป้าหลอกเด็ก เยาวชน เพราะเข้าถึงง่าย จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองตลอดจนกระทรวงศึกษาธิการ เตือนภัยเด็กและเยาวชนอย่าหลงเชื่อเปิดบัญชีหรือซิมมือถือโดยเด็ดขาด กรณีนี้เป็นเรื่องใหญ่ครอบคลุมไปทั่วประเทศ โดยนางปวีณาจะนัดหมายและพาผู้เสียหายทั้ง 2 ราย เข้าพบ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อให้ข้อมูลขยายผลติดตามขบวนการเหล่านี้มาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป.