เมื่อวันที่ 27 ก.ย. นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขอประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชน ขอให้หลีกเลี่ยงใช้ถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 221 สายศรีสะเกษ-กันทรลักษ์ เนื่องจากน้ำท่วมขังรอการระบายทั้ง 4 ช่องจราจร บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านกระบี่ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ ระดับน้ำสูงประมาณ 30 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาวประมาณ 800 เมตร ทำให้รถเล็กและรถจักรยานยนต์สัญจรไม่สะดวก และจราจรติดขัด จึงขอให้ประชาชนเลี่ยงไปใช้เส้นทางถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 2085 สายกันทรลักษ์-กันทรารมย์ เข้าตัวอำเภอแทน

ขณะที่ในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ น้ำจากลำห้วยสำราญ ที่ไหลมาจากเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีพายุฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน ส่งผลทำให้ถนนตัดใหม่ สายเทคนิค-ม.ราม ถูกน้ำท่วมทั้ง 4 เลน ต้องปิดการจราจรชั่วคราว และมีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนในเขตเมืองหลายแห่ง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน จึงได้จัดทีมปฏิบัติการตอบโต้ภัยพิบัติออกช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

โดยจัดกำลังอาสาสมัคร จำนวน 15 นาย พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือ เรือพร้อมเครื่องยนต์ 1 ลำ รถพยาบาลสว่างจิตต์ 3 คัน รถหกล้อพร้อมโมบาย 1 คัน ออกช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของ สัตว์เลี้ยง เครื่องใช้ไฟฟ้า รถ จยย.และสิ่งของจำเป็น บริเวณซอยมิ่งเมือง ชุมชนโนนกอง ชุมชนหนองอุทัย และหมู่บ้านกุลวดี ซึ่งมูลนิธิสว่างจิตต์พร้อมเข้าช่วยเหลือขนย้ายผู้คน และผู้ป่วยฉุกเฉินได้ 24 ชั่วโมง หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ โทร. 08-7959-3639

ด้าน นายจำรัส สวนจันทร์ ผอ.โครงการชลประทานศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณสถานี M9 (สะพานขาว) อ.เมืองศรีสะเกษ พบว่าจะมีตัวแปรในการลดลงได้ก็ต่อเมื่อ ระดับน้ำในแม่น้ำมูลมีค่าลดลงหรือคงที่เสียก่อน และเนื่องจากปากห้วยสำราญ อยู่บริเวณ ต.โพธ์ ซึ่งมีน้ำท่วมริมแม่น้ำมูลจำนวนมาก ซึ่งเสมือนเป็นแก้มลิงรองรับน้ำจากลำห้วยสำราญ ดังนั้นหากพายุไต้ฝุ่น “โนรู” เปลี่ยนมาเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชันก็จะทำให้มีผลกระทบน้อย คาดว่าประมาณ 4 วัน ระดับน้ำในแม่น้ำมูลจะคงที่ และระดับน้ำในห้วยสำราญก็จะคงที่เช่นเดียวกัน แต่หากพายุไต้ฝุ่น “โนรู” ยังคงมีความรุนแรง จะต้องมีมาตรการรองรับในการช่วยเหลือประชาชนต่อไป.

ขอบคุณภาพจาก : หน่วยกู้ภัยสว่างจิตต์ศรีสะเกษ