เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นานกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม เพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน ภายหลังเกิดปัญหาคนร้ายกราดยิงที่ อบต.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นายวิษณุ เครืองาม รอนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หายหลังเกิดเหตุร้ายที่ อบต.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู รัฐบาลรวมทั้งคนไทยทั้งประเทศ มีความห่วงกังวลในเรื่องการครอบครองอาวุธปืน และยาเสพติด เป้าหมายในวันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องกำหนดมาตรการเร่งด่วนอย่างเป็นระบบรวดเร็วและมีผลเป็นรูปธรรม เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน แม้ที่ผ่านมา ได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ แต่ต้องมีมาตรการเพิ่มเติมมากขึ้น วันนี้ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการใหญ่ขึ้นอีกหนึ่งคณะ เพื่อติดตามตรวจสอบการทำงานของทุกคณะที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อกำกับดูแล หน่วยงานต่างๆ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวก่อนร่วมประชุม ยืนยันกระทรวงสาธารณสุขพร้อมสนับสนุนบำบัดผู้ป่วยยาเสพติดอาการของผู้ป่วยแต่ละคนแตกต่างกัน ถ้าเบาๆ ใช้วิธีบำบัดรักษา ทำความเข้าใจและให้ความรู้ แต่หากอาการหนัก ต้องเข้ารับรักษาทางการแพทย์
ส่วนประเด็นหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่ จ.หนองบัวลำภู ต้อง ทบทวน พ.ร.บ.กัญชากัญชง หรือนโยบายกัญชาเสรีหรือไม่นั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า วันนี้กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด หลังจาก ป.ป.ส.เห็นชอบถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 ดังนั้นขออย่าไปผูกกัน เป็นคนละเรื่องกัน
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าวันนี้นายอนุทิน และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขที่มาร่วมประชุมต่างถอดหน้ากากอนามัยทั้งคณะ ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า วันนี้ถอดหน้ากากกันหมดแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ดีเดย์มาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. และวันนี้อยู่ในสถานที่อากาศโล่งแจ้ง รวมทั้ง ทุกคนฉีดวัคซีนหมดแล้ว จึงถือว่าไม่มีความเสี่ยง แต่ถ้าเป็นสถานที่ปิดห้องประชุม หากใครมีความเสี่ยงหรือมีอาการก็ต้องสวมใส่หน้ากากเช่นเดิม.
