จากกรณีตำรวจจับกุม นายธนเดช หรือ รุจ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาแชตลวงสาวมากักขังหน่วยเหนี่ยวและทารุณกรรม จนเหยื่อที่เป็นหญิงสาวรายหนึ่งถึงแก่ความตาย และยังช่วยเหลือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี เหยื่ออีกคนที่ถูกหลอกมากักขังและทำร้ายร่างกายไว้ได้ด้วย เหตุเกิดในจ.พัทลุง ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

จับหนุ่มบาร์โฮสโหดขังสาวทำร้ายจนตาย หนีลงใต้หลอกอีกรายซ้อมทารุณ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อม น.ส.บี (นามสมมุติ) แม่ของ น.ส.เอ ได้เดินทางมาเยี่ยม น.ส.เอ ที่ห้องพักพิเศษของรพ.พัทลุง โดยมี นพ.วุฒิชัย ดิลกธราดล รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.พัทลุง พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ เกตุขาว ผกก.สภ.เมืองพัทลุง นางมณี สาระผล พมจ.พัทลุง นางวิไลวรรณ สุวรรณรักษา พมจ.สงขลา มอบหมายนักสังคมสงเคราะห์ และนางสุจิตรา รัตนเสวี ยุติธรรมจังหวัดพัทลุง ร่วมให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ เมื่อ น.ส.เอ ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ในห้องพิเศษ รพ.พัทลุง เมื่อเห็นหน้าแม่และนางปวีณาที่มาเยี่ยม ก็ถึงกับน้ำตาไหลด้วยความดีใจ แม่โผกอดลูกทั้งน้ำตาปลอบประโลมผูกข้อมือเรียกขวัญ ด้านนางปวีณา ได้ให้กำลังใจและขอให้หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว

จากนั้นนางปวีณาได้ร่วมประชุมกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ โดย น.ส.บี ได้กล่าวขอบคุณมูลนิธิปวีณาฯ กองปราบปราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกนาย รวมทั้งรพ.พัทลุง ที่ช่วยเหลือรักษาลูกสาวอย่างดีที่สุด หากตำรวจไม่เข้าไปจับกุมฆาตกรโหดรายนี้ ลูกสาวตนอาจจะตายอยู่ในห้องนั้นก็ได้ ตนขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และขอให้คนร้ายรายนี้ได้รับโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต จะได้ไม่ไปก่อเหตุกับใครอีก

ด้าน พล.ต.ต.ตานิตย์ กล่าวว่า ตำรวจสภ.เมืองพัทลุงได้ออกหมายจับ นายธนเดช ผู้กระทำผิดในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และหน่วงหนี่ยวกักขัง ซึ่งตอนนี้ผู้ต้องหาถูกส่งฝากขังในคดีทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามหมายจับก่อนหน้านี้ไปแล้ว ทางสภ.เมืองพัทลุงจะได้ไปอายัดตัวที่เรือนจำต่อไป และขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลในเรื่องยาเสพติดและติดตามว่ามีผู้เสียหายเพิ่มอีกหรือไม่

คุมฝากขัง ‘ไอ้รุจ’ แชตลวงผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่ ก่อนจับเหยื่อสาวทารุณกรรม

ขณะที่ นพ.วุฒิชัย ดิลกธราดล รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.พัทลุง กล่าวว่า อาการบาดเจ็บของ น.ส.เอ เหยื่อสาวผู้เคราะห์ร้าย แพทย์ตรวจพบ ซี่โครงข้างขวา ซี่ที่ 5-7 หัก ซี่โครงข้างซ้าย ซี่ที่ 5-10 หัก กระดูกสันหลังหักบริเวณเอวหัก 3 จุด ม้ามบาดเจ็บระดับ 1 เลือดออกในช่องท้อง ขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว ทั้งนี้ผู้ป่วยไม่ต้องผ่าตัดแต่จะต้องใช้เวลาในการรักษาตัวประมาณ 6 สัปดาห์ ส่วนเรื่องสมองไม่มีเลือดออกแต่อย่างใด สำหรับสภาพจิตใจอาจต้องใช้เวลาฟื้นฟูเป็นปี ซึ่งทางครอบครัวต้องดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย

ในส่วนของพัฒนาสังคมฯ นางมณี สาระผล พมจ.พัทลุง จะช่วยดูแลแม่และนางสาวเอจนกว่าจะหายดีออกจากโรงพยาบาล และจะประสาน พมจ.ลำพูน ช่วยดูแลลงเยี่ยมครอบครัวหลังกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด ขณะที่ นางสุจิตรา รัตนเสวี ยุติธรรมจังหวัดพัทลุง ได้ดำเนินการเสนอเรื่องขอรับเงินเยียวยาให้ผู้เสียหายแล้ว

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า ขอเตือนทุกคนว่าอย่าไปหลงเชื่อใครง่ายๆ เพราะมิจฉาชีพหรือคนร้ายจะช่องทางเหล่านี้ในการหลอกลวงเหยื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจจะช่วยเหลือไม่ได้ทุกคน กรณีคนร้ายรายนี้เป็นฆาตกรที่โหดเหี้ยมมากหากรับโทษและได้รับการปล่อยตัวออกมาก็อาจจะมาก่อเหตุอีก จึงขอให้ได้รับโทษประหารสถานเดียว

นางปวีณา กล่าวอีกว่า ล่าสุดได้รับโทรศัพท์จากผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งขณะนี้อยู่ต่างประเทศ ยืนยันว่าคนร้ายรายนี้เป็นคนเดียวกับที่เคยหลอกลวงและทำร้ายตนเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ยังอยู่เมืองไทย แต่ตอนนั้นหนีออกมาได้ และไม่ได้แจ้งความเพราะอับอาย ยังมีเหยื่ออีกหลายรายที่ถูกกระทำเช่นเดียวกัน โดยหญิงสาวรายนี้จะส่งหลักฐานต่าง ๆ มาให้ มูลนิธิปวีณาฯ ก็จะส่งข้อมูลให้ตำรวจกองปราบปรามขยายผลต่อไป สำหรับผู้เสียหายที่เคยถูกฆาตกรโหดรายนี้กระทำและยังไม่ได้แจ้งความสามารถแจ้งเรื่องมาที่มูลนิธิปวีณาฯ ได้ยินดีจะให้ความช่วยเหลือเต็มที่ โดยสามารถติดต่อมูลนิธิปวีณาฯ ได้ที่ โทร.1134, 0984788991, 0818901355, 0818140244, 0625601636