เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 22 ต.ค. ที่ห้องประชุมพุทไธสง สภ.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี รรท.ผกก.สภ.ปากเกร็ด ,ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี, ผกก.กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.นนทบุรี  และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมติดตามอาวุธปืน กรณีด.ต. เชาวลิต พุ่มขจร ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธร (สภ.) ปากเกร็ด ก่อเหตุขโมยปืนราชการออกไป 159  กระบอก โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามปืนคืนมาได้แล้วจำนวน 40 กระบอก

พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า วันนี้ทางพล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ได้สั่งการให้ตนมาประชุมฝ่ายสืบสวนประชุมฝ่ายสืบสวนในคดีปืนหาย ตนได้ดำเนินการเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และมีส่วนร่วมในการเอาอาวุธปืนไป ในส่วนที่ 2 ด้านการสืบสวนให้เร่งดำเนินการติดตาม นำอาวุธปืนกลับมา ส่วนผู้ที่ได้รับซื้อปืนไปอยู่ในการดำเนินการ จึงอยากฝากถึงผู้ใดที่ถืออาวุธปืนอยู่ของทางราชการอยู่หรือครอบครองไว้ ถ้าไม่มีเจตนาจะแสดงความบริสุทธิ์ใจก็ให้นำมาคืน จะมีการดำเนินการแยกไปอีกส่วน แต่ช่วงนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนตามหาปืนทั้งหมด และคนใดนำปืนไปแล้วไม่คืน มีเจตนาที่จะทำความผิดก็จะอยู่ในอีกขั้นตอนเพื่อดำเนินคดี

ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามปืนมาได้ทั้งหมดจำนวน 40 กระบอก ซึ่งมีหายไปทั้งหมด 159 กระบอก ตอนนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ว่ามีผู้ใดที่เกี่ยวข้องกับการขนปืนออกหรือไม่ ตนจึงมีคำสั่งการป้องกันต้องเข้มงวดขึ้น ความจริงแล้วมาตรการของตำรวจแห่งชาติดีอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ติดที่เจ้าหน้าที่ไม่ดีเองจึงต้องวางระบบงานใหม่ในส่วนของการป้องกันจังหวัดนนทบุรี จะสั่งการเรื่องการเปิดห้องคลังพัสดุต้องมีผู้ถือกุญแจ 2 คน แยกฝ่ายผลัดเปลี่ยนกันตามเวลาราชการ วันหยุดไม่สามารถเปิดคลังได้ จะควบคุมให้มีการรัดกุม ปกติทุกพื้นที่ สภ.จะมีการตรวจทุกๆ 15 วัน มีคณะกรรมการเข้ามาตรวจ ที่ผ่านมาอาจจะมีความละเลย จึงมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว