หากเปรียบโลกนี้คือละครโรงใหญ่ ละครโรงเล็ก การเมืองไทยกำลังเดินมาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ เนื้อเรื่องกำลังไหลเข้าสู่จุดไคลแมกซ์ ที่มีความสลับซับซ้อน เข้มข้น ลับ-ลวง-พราง

ประเด็นที่แหลมคมที่สุด อยู่ในช่วงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรปีที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2565 ถึงวันที่ 28 ก.พ. 2566 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย ก่อนสภาครบวาระ มีกฎหมายสำคัญหลายฉบับที่เข้าคิวรอพิจารณา หนึ่งในนั้นคือร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. … ที่พรรคภูมิใจไทย พยายามผลักดัน อย่างเต็มที่

ทบทวนความจำ ย้อนไปช่วงก่อนเลือกตั้งปี 2562 นโยบายกัญชาเสรีเป็นนโยบายเร่งด่วนของพรรคภูมิใจไทย ที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง เดินตาม “แคลิฟอร์เนียโมเดล” ประเทศสหรัฐ ที่ออกกฎหมายปลดล็อกกัญชา สร้างรายได้เข้ามลรัฐแคลิฟอร์เนียมหาศาล

ภายหลังเข้าเป็นพรรคร่วมรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยได้ผลักดันให้เรื่องพัฒนาเทคโนโลยีการใช้กัญชา กัญชง และพืชสมุนไพรในทางการแพทย์ เป็น 1 ใน 12 นโยบาย เร่งด่วนของรัฐบาล

จากนั้นวันที่ 25 ม.ค.2565 บอร์ด ป.ป.ส. ที่มี วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 ก่อนส่งไม้ต่อให้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงนามเซ็นปลดล็อกกัญชาพ้นยาเสพติดในวันที่ 8 ก.พ. 2565

ครั้งนั้นมีการใช้เทคนิคกฎหมาย หน่วงเวลาประกาศปลดล็อกกัญชา 120 วัน เพื่อรอที่ประชุมสภา ทำคลอดกฎหมายกัญชา เข้ามาวางกติกากำกับให้ชัดเจน

ทว่าปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เมื่อถึงเดดไลน์ 120 วัน ที่ประชุมสภาพิจารณา เพิ่งโหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา ได้เพียงวาระแรกด้วยคะแนน 373 ต่อ 7 เสียง

ส่งผลให้เกิดสุญญากาศกฎหมายที่ใช้คุมกัญชา

ต่อมาวันที่ 14 ก.ย. 2565 ในที่ประชุมสภา เกิดปรากฏการณ์ 3 ประสาน คือ พรรคพลังประชารัฐ, พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย จับมือแทคทีม ด้วยคะแนน 198 ต่อ136 เสียง แช่แข็งร่างกฎหมายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย

เสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมสภา ให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ถอนร่างกฎหมายกลับไปทบทวนใหม่ ไม่ให้เดินหน้าพิจารณาต่อวาระที่สอง โดยอ้างเหตุผลในชั้น กมธ. แก้ไขเพิ่มเนื้อหาจากเดิม 45 มาตรา ปรับแก้เพิ่มเป็น 95 มาตรา อาจมีเนื้อหาที่ไม่รอบคอบ

จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ส่งผลให้ร่างกฎหมายกัญชา ต้องลากยาว รอคิวเข้าที่ประชุมสภาสมัยประชุมครั้งสุดท้าย ท่ามกลางกระแสข่าว มีหลายกลุ่ม จ้องเล่นเกมการเมืองเตะถ่วงไม่ให้ร่างกฎหมายกัญชา พิจารณาในวาระ 2 ได้ทัน ในวันที่ 2 พ.ย. และอาจต้องเลื่อนไปพิจารณาในออกไปเรื่อยๆ เพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อ่านเกมความพยายามยื้อการพิจารณาร่างกฎหมายกัญชา มีเป้าประสงค์เตะถ่วงกฎหมายสำคัญ เล่นเกมการเมืองเจาะยางพรรคภูมิใจไทย

“มันคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เป็นการพยายามเอาสีข้างเข้าถู คนเหล่านั้น ไม่ได้ทำกฎหมาย เหมือนกับว่า มีธงแล้วว่าไม่ให้ผ่าน” อนุทิน ย้ำ

เอาเป็นว่ามองข้ามชอตไปเลย หากท้ายที่สุดร่างกฎหมายกัญชาที่เป็นนโยบายหัวหอกของพรรคภูมิใจไทย ถูกคว่ำคาสภา จะส่งผลให้เกิดอาฟเตอร์ช็อก เร่งปฏิกิริยายุบสภา และตามมาด้วยการล้างแค้นในศึกเลือกตั้งครั้งหน้าแน่นอน!