กรณี จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือ จ่าเบิร์ด ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บ้านหนองเอื้อง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ภ.จว.ตรัง ใช้ปืนขนาด 9 มม. ยิงภายในสถานบันเทิง ‘คันทรี่โฮม’ เลขที่ 205 หมู่ 4 ถนนพัทลุง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง (บริเวณถนนทางเข้า บขส.ตรัง) มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเขม่นไม่พอใจกัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา ต่อมามีคำสั่งให้ออกจากราชการ และถูกกดดันอย่างหนักจนยอมเข้ามอบตัว ขณะที่เจ้าของร้าน วอนอย่าปิดร้าน เพราะเพิ่งฟื้นจากโควิด ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เกิดเหตุทางสถานบริการ ‘คันทรี่โฮม’ ได้ออกมาเรียกร้อง และคัดค้านสั่งปิดผับก่อนหน้านี้นั้น ล่าสุด นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง เปิดเผยว่า ตอนนี้ตำรวจภูธรจังหวัดได้รายงานเหตุการณ์เบื้องต้นให้ทราบแล้ว ซึ่งต้องรอสำนวนสอบสวนที่ชัดเจนจากตำรวจก่อน เพราะว่าในสำนวนของตำรวจ จะมีข้อมูลเชิงลึกในเหตุการณ์ทั้งหมด โดยได้สั่งการให้นายอำเภอสรุปเหตุการณ์ทั้งหมด และรายงานมายังตนอีกทางหนึ่ง หลังรอสำนวนจากตำรวจแล้วก็จะมาดูว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าข่ายทำความผิดตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 หรือไม่ ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ผิดก็คือผิด เบื้องต้นได้รายงานไปยังกระทรวงมหาดไทยแล้ว

พ่อเมืองตรัง กล่าวอีกว่า ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ผู้ประกอบการว่า จะเปิดบริการต่อหรือไม่ แต่ ณ ขณะนี้ ทางจังหวัดยังไม่มีคำสั่งใดๆ กับคันทรี่โฮม ส่วนเรื่องของสถานบันเทิง ตนได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติเฉพาะกิจของจังหวัด ออกตรวจอย่างเข้มข้น ทั้งเรื่องของผู้ใช้บริการที่ต้องมีอายุต่ำกว่า 20 ปี และเวลาที่จะต้องเปิดปิดตามกฎหมาย โดยไม่กำหนดเวลาว่าจะรู้ผลภายในกี่วัน ขึ้นอยู่กับสำนวนคดีที่ส่งมา ในส่วนของการ์ดฝ่ายปกครอง ตนกำชับแล้วว่า ห้ามยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและพกพาอาวุธเฉพาะในช่วงของการปฏิบัติงาน นอกเหนือเวลางานห้ามพกอาวุธโดยเด็ดขาด.