จากกรณี “เพจสายไหม ต้องรอด” รับเรื่องร้องเรียนจาก นายมาร์ช (นามสมมุติ) เทรนเนอร์หนุ่มชื่อดังหลัง ถูก น.ส.ไบร์ท (นามสมมุติ) หลอกให้จดทะเบียนสมรสและนำเงินไปใช้นับล้านบาท ท่ามกลางกระแสข่าวว่า น.ส.ไบร์ท ยังไปหลอกผู้ชายรายอื่น ๆ เพื่อเอาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ในรายการโหนกระแสโดยพิธีกร หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ได้เชิญ น.ส.ไบร์ท คู่กรณีของ มาร์ช ที่ตกเป็นข่าวครึกโครม มาชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยฝ่ายหญิงสาวเปิดใจกล่าวถึงความสัมพันธ์กับหนุ่ม ๆ ทั้งคนในปัจจุบันและอดีตว่า ตนมีสามีทั้งหมด 4 คน คนแรกเป็น ช่างเครื่องมือแพทย์ มีลูกด้วยกัน 2 คน ส่วนสามีคนที่ 2 เป็นทหารบก ยศนายสิบธรรมดา มีลูกด้วยกัน 1 คน ภายหลังทะเลาะกัน มีการทำร้ายร่างกาย ทำให้ตนทนไม่ไหวเลิกรากันไปแบบจบไม่ดี

จนกระทั่งมาเจอกับสามีคนที่ 3 ซึ่งเป็นคุณหมอ และเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด มีลูกด้วยกัน 1 คน ทุกวันนี้ฝ่ายชายยังให้เงินใช้อยู่ ส่วนสาเหตุที่เลิกเพราะไม่ชอบอยู่ในกฎระเบียบ คุณหมอรักตนมากถึงกับซื้อบ้าน 10 ล้านให้อยู่ เลิกกันแล้วก็ยังให้เงินใช้ด้วย และคนสุดท้ายคือ เทรนเนอร์ “มาร์ช” ที่มีการจดทะเบียนกันแล้ว แต่กลับเกิดปัญหาจนไปกันไม่ได้ จึงหันไปคบหากับเด็กนักเรียนวัยรุ่น อายุ 17 ปี ซึ่งยอมรับว่า เป็นแฟนคนล่าสุด ซึ่งฝ่าย น.ส.ไบร์ท กล่าวกลางรายการถึงเหตุที่คบหากับเด็กหนุ่มว่า “…ก็เด็ก…มันน่ารักอะ…ก็หนูอยากคลั่งรักมั่งอะ…”

โดยเรื่องนี้ หนุ่ม กรรชัย ได้เล่าอีกมุมหนึ่งให้ฝ่ายหญิงฟังว่า แม่ของนักเรียนชายอายุ 17 ปี ที่ น.ส.ไบร์ท คบหานั้น เขารู้สึกเป็นห่วงลูกชาย เพราะยังเด็กอยู่ แล้วก็กลัวจะตกเป็นข่าวกับฝ่ายหญิงด้วย เขาจึงอยากให้เลิกกับลูกชายเขา ครอบครัวไม่โอเคกับฝ่ายหญิงแน่นอน น.ส.ไบร์ท จะยอมเลิกหรือไม่

ปรากฏว่า น.ส.ไบร์ท ระบุทำนองว่า ก็ต้องยอมเลิก และเผยด้วยว่า ก่อนหน้านี้เคยพาเด็ก 17 ไปเที่ยวราชบุรี อยู่ด้วยกัน 2 สัปดาห์ ส่วนที่ว่าวันนี้ ยังไปอยู่บ้านของเด็ก 17 ก็เพราะเสื้อผ้าอยู่ที่บ้านหลังนี้ เมื่อเลิกรากันแล้วก็ต้องไปอยู่ที่อื่น แต่ก็ยังไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน เรื่องญาติพี่น้องคงไม่อยากไปรบกวนเขา คิดว่าคงไปอยู่กับเพื่อนมากกว่า.