เช้าวันนี้ (11 พ.ย. 2565) นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบานีส แห่งออสเตรเลีย แถลงต่อสื่อมวลชนในกรณีที่มีการปล่อยข้อมูลของผู้ป่วยจำนวนมากลงบนพื้นที่ออนไลน์ โดยแก๊งแฮกเกอร์ที่โจรกรรมข้อมูลไปเรียกค่าไถ่ ว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ และเลวทรามต่ำช้าอย่างที่สุด
สื่อมวลชนรายงานว่า หลังจากที่ข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมากของลูกค้าของ Msdibank Private Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการประกันด้านสุขภาพเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียโดนโจรกรรมโดยกลุ่มแฮกเกอร์ลึกลับ เพื่อเรียกค่าไถ่ ก็มีการคาดการณ์จากบริษัทว่าอาจมีการปล่อยข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านี้ออกสู่พื้นที่ออนไลน์ส่วนที่เป็น ‘Dark Web’ อย่างต่อเนื่องทุกวัน เนื่องจากบริษัทปฏิเสธการจ่ายเงินค่าไถ่ให้คนร้าย
Dark Web หรือ เว็บมืด/เว็บล่องหน คือกลุ่มเว็บไซต์ที่ซ่อนตัวจากการค้นหาของเสิร์ช เอนจิ้น ทั่วไป ไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าถึง โดยจะเข้าไปดูได้ก็ต่อเมื่อใช้โปรแกรมหรือรหัสผ่านพิเศษเท่านั้น
ในการปล่อยข้อมูลครั้งล่าสุด แก๊งแฮกเกอร์เลือกปล่อยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่มีประวัติการป่วยด้านจิตเวชและมีปัญหาเรื่องการดื่มสุราจำนวนหลายร้อยคนลงใน Dark Web โดยก่อนหน้านี้มีการปล่อยข้อมูลออกไปแล้ว 2 ครั้ง
เดวิด คอกซ์คาร์ ซีอีโอของ Medibank คาดว่า แก๊งแฮกเกอร์จะปล่อยข้อมูลออกมาทุกวัน ในขณะที่บริษัทโดนวิจารณ์และตำหนิว่ามีมาตรการตอบโต้ที่เชื่องช้าเกินไป
ขณะนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าทั้งอดีตและปัจจุบันของบริษัทราว 9.7 ล้านรายกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง ในเวลาเดียวกันกับที่ประเทศออสเตรเลียกำลังต่อสู้กับการโจมตีทางไซเบอร์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยปัจจุบัน มีบริษัทอย่างน้อย 8 แห่ง ที่ต้องประสบกับการโจมตีของเหล่าแฮกเกอร์ เช่น บริษัท Optus ซึ่งมีบริษัท Singapore Telecommunications เป็นเจ้าของ
นายกรัฐมนตรี อัลบานีส กล่าวว่า ทางรัฐบาลกำลังดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อจำกัดผลกระทบที่เกิดขึ้น และได้จัดตั้งบริการพิเศษทางโทรศัพท์สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบและต้องการความช่วยเหลือทั้งจากรัฐบาลและจาก Medibank.
เครดิตภาพ : REUTERS