เมื่อวันที่ 17 พ.ย. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2, นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการ สคบ., พ.ต.ท.อนุรักษ์ จิรจิตร ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท., นายจิระวัฒน์ อยู่สบาย รักษาการ ผอ.กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการ “ทลายเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าไทย-มาเลเซียรายใหญ่” ตรวจค้น 4 จุด ประกอบไปด้วย ไปรษณีย์หนองแค บ้านใน อ.หนองแค, ศูนย์ไปรษณีย์พระนครศรีอยุธยา และไปรษณีย์หลักสี่ โดยยึดของกลางเป็นน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า จำนวนกว่า 253,000 ชิ้น อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า (Pod) จำนวน 4,000 ชิ้น มูลค่ารวมกว่า 80 ล้านบาท

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน กรณีพบการลักลอบนำเข้าสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อนำมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ จึงประสานความร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) กระทั่งทราบว่า มีการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากจากต่างประเทศ เพื่อนำโฆษณาขายผ่านช่องทางออนไลน์ เพจเฟซบุ๊ก “thisissaltsofficia” ผ่านเว็บไซต์ https://www.thisissalts.com/ และอินสตาแกรม @thisissalts_official ใช้วิธีขนส่งผ่านทางไปรษณีย์ไทย อำพรางเป็นพัสดุไปรษณีย์ซึ่งสำแดงเป็นผลิตภัณฑ์อื่น จากอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ส่งมาที่อำเภอหนองแคจังหวัดสระบุรี จึงนำกำลังไปตรวจสอบ กระทั่งพบนายสันติ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นผู้รับพัสดุที่ทำการไปรษณีย์หนองแค ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่น แอล 200 หมายเลขทะเบียน บพ 4558 สระบุรี มารับพัสดุ จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น พบน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 46 ลัง ภายในลังบรรจุ 150 กล่อง และภายในกล่องบรรจุ 10 ชิ้น รวมจำนวนประมาณ 64,000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 13,500,000 บาท

จากการสอบสวนเบื้องต้นนายสันติ รับว่าได้รับการว่าจ้างจาก น.ส.มิกซ์ ให้มารับน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าว ไปส่งที่บ้านเลขที่ 89/37 ต.หนองไข่น้ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจค้นบ้านดังกล่าว พบบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า รวมจำนวนประมาณ 229 ลัง หรือ 160,000 ชิ้น มูลค่า 37,000,000 บาท นอกจากนี้ยังพบว่า บ้านหลังดังกล่าวใช้เป็นสำนักงานและสถานที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าสำหรับจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ และยังพบข้อมูลอีกว่า ยังมีบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าอีกจำนวนหนึ่ง ที่อำพรางเป็นพัสดุไปรษณีย์ ซึ่งสำแดงเป็นผลิตภัณฑ์อื่น จากอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ส่งมาที่อำเภอหนองแคจังหวัดสระบุรี แต่พัสดุดังกล่าว อยู่ที่ศูนย์ไปรษณีย์พระนครศรีอยุธยาเพื่อรอนำจ่าย เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปที่ศูนย์ไปรษณีย์พระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจสอบ พบพัสดุจำนวน 20 ลัง ตรวจพบ 1. น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 29,000 ชิ้น 2. อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า (Pod) จำนวน 4,000 ชิ้น มูลค่าในท้องตลาดคิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,500,000 บาท นอกจากนี้ได้ตรวจยึดน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าได้อีกจำนวนหนึ่ง ที่ไปรษณีย์หลักสี่ รวมมูลค่ารวม 80 ล้าน.