สืบเนื่องจากมีรายงานว่าเมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 24 พ.ย. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ได้เข้ายึดเครื่องบิน ของนายชัยณัฐร์กรณ์ ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว นักธุรกิจชาวจีน ที่จอดอยู่ที่สนามบินแห่งหนึ่ง ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้เข้ายื่นข้อมูลเอกสารกับทางกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตรวจสอบความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 25 พ.ย. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานการตรวจยึดเครื่องบินลำดังกล่าว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบแล้วพบว่า ชื่อผู้ถือครองเป็นชื่อบุคคลอื่นไม่ใช่ชื่อนายตู้ห่าวแต่อย่างใด เบื้องต้นอยู่ระหว่างรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง หากพบว่ามีการว่าจ้างให้นอมินีถือครองเครื่องบินลำดังกล่าว หรือพิสูจน์ได้ว่าเป็นทรัพย์สินของนายตู้ห่าวจริง ป.ป.ส. ก็จะดำเนินการเข้าตรวจยึดทันที

นายวิชัย เผยอีกว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อรอนำข้อมูลทางการสืบสวนมาพิจารณา ส่วนการอายัดทรัพย์อื่นๆ เช่น บ้าน ที่ดิน เงินสด หรือทรัพย์สินมีค่า ของนายตู้ห่าวทาง ป.ป.ส. จะดำเนินการได้หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งรายการอายัดทรัพย์สินมาให้พิจารณา ภายใน 7 วัน ซึ่งคาดว่าจะได้รายงานฉบับนี้ภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาทรัพย์สินแต่ละรายการว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานอัยการสูงสุดและกรมที่ดิน เป็นต้น ร่วมกันพิจารณา ทั้งนี้ หากพิจารณาทรัพย์สินรายการใดแล้วพบว่าเข้าข่าย ก็จะดำเนินการแจ้งเจ้าของทรัพย์ให้ทราบ โดยถ้าไม่สามารถชี้แจงที่มาที่ไปได้ ก็จะนำส่งรายละเอียดพร้อมสำนวนการอายัดทรัพย์ให้อัยการนำไปยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อดำเนินการอายัดขายทอดตลาดต่อไป โดยกระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี

สำหรับการอายัดทรัพย์ของนายตู้ห่าวนั้น นายวิชัย อธิบายว่า เป็นการดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.บ.ยาเสพติด โดยพิจารณาตามที่ศาลออกหมายจับในความผิดฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, ร่วมกันค้ายาเสพติด และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย.