เมื่อวันที่ 26 พ.ย. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เปิดเผยถึงกรณี การเผยแพร่คลิปนักแสดงรุ่นใหญ่ทำร้ายร่างกายดาราน้องใหม่ ขณะพาไปเสริมหล่อ หลังจากไม่พอใจที่อีกฝ่ายไม่ยอมไปกินปูด้วย จึงได้ตบหน้ากลางห้างดังที่ประเทศเกาหลีว่า ในวันเกิดเหตุมีพยานคนเห็นเหตุการณ์หลายคนและเป็นคนไทยด้วย เรื่องนี้ทางอัยการสูงสุดจะเป็นผู้ส่งฟ้องเนื่องจากเหตุเกิดในต่างประเทศ น้องผู้เสียหายฝากบอกว่า ใครที่เห็นเหตุการณ์ให้ช่วยติดต่อมาที่ทนายษิทราผ่าน @Sittraด้วย เพราะนอกจากคลิปแล้ว ยังต้องใช้พยานเมื่อกลับมาประเทศไทย ซึ่งจะมีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับดารารุ่นใหญ่คนดังกล่าว

ทนายตั้ม ยังเผยอีกว่า จากคลิปที่ปรากฎ ขณะที่มีการพูดคุยนั้นได้มีการชวนกันไปกินปู จากนั้นฝั่งดาราชายได้บอกว่าเดินมา 3 ชั่วโมงแล้วเหนื่อย มีของเยอะ ขอไม่ไปด้วย จึงเกิดอาการโมโหเลยตบ โดยไม่ได้มีเถียงหรือทะเลาะอะไรกันเลย ตามคลิปที่ปรากฎทางตำรวจเกาหลีส่งมาให้มีความสั้น เนื่องจากทางตำรวจเกาหลีนำคลิปไปตัดบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกทั้งหมด หลังเกิดเหตุได้เดินออกไปด้านนอก และมีการพูดด่าเสียงดัง มีคนไทยที่อยู่ตรงนั้นจนรู้สึกอับอายกับคนที่เห็นเหตุการณ์ หลังเกิดเหตุก็เดินทางไปกินปูด้วยกัน เพราะไม่อยากมีปัญหา แต่ยังไม่ได้มีการไปทำหน้ากลัวจะมีปัญหา ระหว่างนั้นก็ได้มีการพูดคุยกัน จนทำศัลยกรรมเสร็จ ฝ่ายดาราชายได้ปรึกษากับทางญาติ บอกว่าทำแบบนี้ไม่ถูก อยู่ ๆ จะมาตบได้ยังไง และไม่ได้มีการทะเลาะเบาะแว้งอะไรกัน ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายนั้น ยืนยันว่าไม่มีเรื่องชู้สาว เพราะค่าใช้จ่ายทั้งตั๋วเครื่องบินที่พักและเรื่องการกินออกเองทั้งหมด ฝ่ายที่ถูกกระทำจึงมาปรึกษาตน ช่วงแรกไม่อยากมีปัญหาเพราะต้องไปทำหน้าหรือศัลยกรรม พอหลังจากนั้นได้มีการปรึกษากับทางบ้าน

ทนายตั้ม เผยต่อว่า ทางผู้ก่อเหตุพยายามติดต่อไปหาดาราชาย แต่ติดต่อไม่ได้เนื่องจากถูกบล็อกทั้งไลน์เบอร์โทรศัพท์ รวมถึงที่มีการย้ายไฟท์เที่ยวบินและโรงแรมที่พักหนีนั้น ทางผู้ก่อเหตุจึงติดต่อไปยังผู้จัดการของดาราชาย ตามที่ตนได้เคยให้สัมภาษณ์ไปว่าทางผู้ก่อเหตุได้มีการตำหนิทางผู้จัดการของดาราชายคนดังกล่าว ว่าทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งทางดาราชายยังอยู่ในอาการตกใจเนื่องจากไม่เคยเจอเรื่องใหญ่ ทั้งเรื่องที่ถูกกระทำ ตนจึงแจ้งไปว่าไม่ต้องกังวลขอให้ทำธุระที่เกาหลีให้เสร็จสิ้น แล้วกลับมาจะแถลงข่าวหรือไม่ก็แล้วแต่ รายละเอียดลึก ๆ อยากให้รอทางดาราชายผู้เสียหายกลับมาชี้แจงให้ทางสื่อมวลชนสอบถามการเอาเอง จะได้รายละเอียดมากกว่า ซึ่งทางผู้เสียหายจะกลับมาในวันที่ 30 พ.ย.นี้ หลังจากทำศัลยกรรมเสร็จ

ส่วนกรณีที่ “ม้า อรนภา กฤษฎี” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า เกลือกับน้ำตาล มันต่างกันนิดเดียวแค่คล้ายกันลักษณะนี้ ทนายตั้มกล่าวว่า คาดว่าน่าจะมาตำหนิตน ทำนองว่าอย่ามาเชื่อตนเพราะหากเชื่อจะกลายเป็นเกลือหรือน้ำตาลตามที่เขาพูด หรืออาจจะขมก็ได้ ซึ่งการที่ทางฝั่งผู้เสียหายมาหาตอนนั้นในฐานะที่ตนเป็นทนายความเหมือนทนายความคนอื่น ๆ ที่ให้การช่วยเหลือ เพราะต้องการที่พึ่งจึงมาหาตน

“….ในเบื้องต้นคดีลักษณะนี้ทางอัยการจะสอบสวนเอง เข้าข่ายในข้อหาทำร้ายร่างกายมาตรา 295 ส่วนคดีที่เกาหลีนั้น ทางผู้เสียหายจะเดินทางไปติดตามคดีในวันจันทร์ที่ 28 พ.ย.65 …” ทนายตั้ม กล่าว.

ด้านทนายเดชาหรือทนายคลายทุกข์ กล่าวว่า จากคลิปที่ปรากฏชัดเจน ลักษณะของการตบ ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีการสนิทสนมกันถึงขั้นจะไปตบหน้าเล่น การตบหน้าหมายถึงการเหยียดหยาม อ้างบันดาลโทสะซึ่งดูแล้วอาจจะเล็กน้อยแต่จิตใจอับอายต่อหน้าบุคคลอื่น คลิปเป็นหลักฐานที่เป็นกลางส่วนการที่บังคับให้ไปกินปูด้วยก็มีความผิดต่อเสรีภาพโดยที่เขาไม่ได้อยากไป ตามมาตรา 309 จำคุก 3 ปี นอกจากนี้ทนายเดชา กล่าวด้วยว่าถ้า”ม้า อรนภา”ฟังอยู่ อย่าแถเลยยอมรับความจริงแล้วจบจะดีกว่า เพราะตนเคยจัดรายการกับทาง”ม้า อรนภา”ด้วย ทนายเดชา กล่าว.