เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยความคืบหน้า “เดลินิวส์” ภายหลังเรือหลวงสุโขทัย ประสบเหตุอับปางจมลงทะเลระยะ 20 ไมล์จากท่าเรือ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่ากองทัพเรือ อยู่ระหว่างเร่งค้นหากำลังพลที่สูญหาย 31 นาย จากทั้งหมด 106 นาย โดยส่งเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบิน ค้นหาอย่างต่อเนื่อง โดยกระแสน้ำพัดลงใต้ กระแสลมพัดเข้าหาฝั่ง จากนั้นคำนวณพื้นที่ขยายกรอบค้นหา 16 ตารางกิโลเมตร ส่วนขีดความสามารถการลอยคอในทะเล ขึ้นอยู่กับสมรรถภาพร่างกายแต่ละบุคคล สิ่งที่ทำได้คือต้องค้นหาผู้ประสบภัยให้ได้เร็วที่สุดเพราะทุกนาทีมีความหมาย

ส่วนประเด็นตามสเปกเรือหลวงสุโขทัย มีกำลังพลประจำเรือ 87 นาย แต่ก่อนเกิดเหตุมีกำลังพลบนเรือ 106 นาย เป็นปัจจัยทำให้เรืออับปางหรือไม่นั้น โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจง ตัวเลขกำลังพล 87 นาย ใช้สำหรับกรณีโหลดอาวุธเต็มรูปแบบ ทั้งจรวดนำวิถีจากพื้น-สู่-พื้น, พื้น-สู่-อากาศ แต่กรณีดังกล่าว เรือหลวงสุโขทัย ไม่ได้โหลดจรวดนำวิถี ทำให้สามารถบรรทุกกำลังพลเพิ่ม พร้อมย้ำเรือหลวงสุโขทัย ไม่ใช่เรือโดยสาร กำลังพลบนเรือ 106 นายไม่น่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เรืออับปางกลางทะเล

พล.ร.อ.ปกครอง ชี้แจงขั้นตอนหลังค้นหาผู้สูญหาย กองทัพเรือต้องตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เรือล่ม และต้องกู้เรือขึ้นมา แต่ประเด็นที่น่าเป็นห่วงนอกจากเรื่องอาวุธประจำเรือ ยังมีเรื่องน้ำมัน ที่อาจทำให้เกิดปัญหาทางทะเลซึ่งต้องระมัดระวัง และไม่สามารถตอบได้น้ำมันเรือหลวงสุโขทัย เหลือปริมาณเท่าไหร่ เนื่องจากเรือออกวิ่งในทะเลมาแล้ว 1-2 วัน.