เมื่อวันที่ 30 ธ.ค 65 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนขอความเป็นธรรม จากนายธวิช หรือลุงวิช อนุศาสนี อายุ 61 ปี พักอยู่ในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังป่วยอัมพฤษ์อาศัยอยู่ตัวคนเดียว ภรรยาไปมีสามีใหม่ ลูกๆ ก็ออกเรือนไปมีครอบครัวแล้ว โดยได้ว่าจ้างให้หมอนวดคนหนึ่งมานวดให้อยู่นานเป็นปี หมดเงินไปกว่า 250,000 บาท แต่อาการไม่ดีขึ้น

ลุงวิช เล่าว่า ตนทราบจากโฆษณาว่าที่ใกล้ๆ บ้านตน มีเปิดบริการจับเส้นรับนวดให้กับผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ โดยมีการคิดค่าบริการชั่วโมงละ 280 บาท แต่ต้องนวดวันละ 4 ชั่วโมง เป็นเงิน 1,120 บาท รวมค่ารถที่หมอนวดมานวดถึงบ้านก็จะตกครั้งละ 1,500 บาท ตนนอนนวดอยู่นานเป็นปีๆ แทนที่อาการอัมพฤกษ์จะหาย แต่เกือบจะเป็นอัมพาตหนักกว่าเก่า เมื่อสอบถามจากหมอจับเส้นได้รับคำตอบว่าถ้าจะให้หายดี ต้องไปนอนเข้าคอร์สที่สำนักงานของเขาที่ อ.หนองแซง จ.สระบุรี แต่เมื่อตนไปใช้บริการตามที่แนะนำอาการก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรดีขึ้น ตนจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อฟ้องร้องเอาผิดกับหมอนวดรายนี้แล้ว

“ตนหมดเงินไป 250,000 บาท กับหมอนวดจับเส้นรายนี้ รู้สึกว่าเหมือนถูกหลอก จึงอยากบอกกับสังคมและคนที่ล้มป่วยด้วยอาการอัมพฤกษ์ว่า อย่าได้หลงเชื่อว่าการจับเส้นจะทำให้หายจากอัมพฤกษ์ได้ ถ้าจะให้ดีที่สุดควรหาหมอโรงพยาบาล เพื่อทำการวินิจฉัยโรคและตรวจหาสาเหตุ ทำตามที่หมอแนะนำจะดีกว่าที่เราไปหลงเชื่อโฆษณา อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้น ทางด้านทนายความอาสากำลังเดินเรื่องฟ้องร้องให้อยู่ ซึ่งคดีอยู่ในระหว่างการยื่นเอกสารหลักฐานให้กับศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี โดยตนยืนยันจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด” ลุงวิช กล่าว.