เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ สน.เตาปูน พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 และ พ.ต.อ.จิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ ผกก.สน.เตาปูน พ.ต.ท.สุรเดช ฉัตรไทย รอง ผกก.สส.สน.เตาปูน พ.ต.ท.ไพรวัลย์ ธนารมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน ร่วมกันแถลงผลจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด จำนวน 2 ราย คือ นายกนิฐ จาตุรงค์กุล หรือ หนุ่ย อายุ 26 ปี และนายชญานนท์ นงค์แสน หรือ โจ อายุ 25 ปี พร้อมของกลางเป็นยาเสพติดจำนวนมาก และรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ โดยแจ้งข้อกล่าวหา “จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติด”
สืบเนื่องจากต้นเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายหนุ่ย ทราบชื่อในเวลาต่อมา คือ นายกนิฐ จาตุรงค์กุล จะใช้รถเก๋ง chevrolet สีขาวทะเบียน 9 กฒ 6078 กรุงเทพมหานคร มีพฤติการณ์ลักลอบขนยาเสพติดมาเก็บพักไว้ที่บ้านเลขที่ 7/2 นนทบุรี 6 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี ต่อมาวันนี้ (17 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายหนุ่ย จะเดินทางไปรับยาเสพติดและจะนำมาเก็บไว้ที่บ้านเลขที่ดังกล่าว จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและวางแผนจับกุม โดยเดินทางไปซุ่มเฝ้าดูโดยรอบบริเวณบ้านดังกล่าว จนเมื่อถึงเวลาประมาณ 05.00 น. ได้มีรถ chevrolet สีขาวทะเบียน 9 กฒ 6078 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มดูอยู่ จึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบ ภายในรถ พบ นายหนุ่ย เป็นผู้ขับขี่ มีนายชญานนท์ หรือโจ นงค์แสน นั่งโดยสารมาด้วย จากการตรวจค้นภายในพบยาบ้า 100,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผ้าสีดำวางอยู่บนพื้นเบาะซ้ายมือคนขับ
จากการซักถาม นายหนุ่ย ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของตน เพิ่งขับรถไปรับมาจากบริเวณวงเวียนใหญ่ เพื่อนำมารอส่งให้ลูกค้า โดยให้นายชญานนท์ นั่งไปเป็นเพื่อนด้วย และจากการซักถามขยายผล นายหนุ่ย ยังให้การรับสารภาพว่า ยังมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในบ้านอีก และสมัครใจยินยอมนำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นภายในบ้านพัก ผลการตรวจค้นพบเสพติดเพิ่มเติม 1. ยาเคตามีนน้ำหนักประมาณ 13.465 กิโลกรัม 2. ยาอี 1,000 เม็ด 3.ไอซ์ 180 กรัม 4. เฮโรอีน 100 กรัม
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายหนุ่ย เพิ่งออกจากคุก และทำงานดังกล่าวมาประมาณ 2 เดือน โดยจะรับยาเสพติดจากนายบี ซึ่งจะสั่งผ่านทางไลน์ให้ไปรับยาตามจุดต่างๆ เพื่อไปส่งลูกค้าอีกที โดยไม่ทราบชื่อจริง และไม่เคยเจอนายบี มาก่อน โดยจะได้ค่าจ้างครั้งละ 5,000-10,000 บาท สาเหตุที่ทำไป เพื่อนำเงินไปเลี้ยงลูก 3 คน สำหรับ นายโจ ซึ่งเป็นเพื่อนกัน มีอาชีพเป็นช่างไฟฟ้า จะได้เงินครั้งละ 500-1,000 บาท อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจจะสอบสวนทั้งสองรายเพิ่มเติ่ม และจะขยายผลไปยังตัวผู้ว่าจ้างต่อไป.
