จากกรณีที่ MR.WU YIWEN อายุ 31 ปี ชาวจีน เดินทางเข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ภายหลังจากชายฉกรรจ์ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพสามิต เข้ามาขอตรวจค้นภายในร้าน จำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ก่อนที่จะจับผู้จัดการร้านและลูกน้องชาวเมียนมา ขึ้นรถไปพร้อมกับเรียกรับเงินกว่า 3 แสนบาท แลกกับการปล่อยตัว เหตุเกิดที่ตึกแถวเลขที่ 99/110 ซอยอู่ทอง 37/2 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ซ้อนแผนจับกุม โดยมีการต่อรองนัดมอบเงิน กันจำนวน 50,000 บาท ที่บริเวณปั๊ม ปตท. ข้างโรงเรียนนายเรือ ถนนสุขุมวิท ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผู้เสียหายได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการเข้าใจผิด และเดินทางไปเสียค่าปรับที่สำนักงานสรรพสามิต พื้นที่สมุทรปราการ 1 แล้ว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ม.ค. พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ผู้เสียหายยังไม่ได้มาให้การเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ถ้าเข้ามากลับคำให้การ ก็จะเข้าค่ายแจ้งความเท็จ ในส่วนสินค้าภายในร้าน เป็นอำนาจการทำงานของสรรพสามิต เขาไม่ได้ส่งมาดำเนินคดีที่โรงพัก ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำแค่ในส่วนของคดีกรรโชกทรัพย์ที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้เท่านั้น

หนุ่มจีนกลับลำปัดสรรพสามิตอุ้มรีดเงิน แจ้งตร.ซ้อนแผนจับเรื่องเข้าใจผิด

พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา 2 คน ที่เป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต 3 ข้อหา คือ 1.มาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ 2.มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และ 3.มาตรา 337 กรรโชกทรัพย์ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ส่วนผู้ต้องหาที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน แจ้งข้อหาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานฯ

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธ และได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน เมื่อคืนที่ผ่านมา ในวงเงินคนละ 150,000 บาท ในส่วนของคดีตอนนี้ อยู่ระหว่างส่งให้ทาง ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไป.