เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ม.ค. ร.ต.อ.นิพนธ์ สุทธหลวง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายและมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักเลขที่ 122/18 หมู่ 7 บ้านสะโคล่ ต.หัวรอ จึงประสานแพทย์เวรพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน เดินทางไปตรวจสอบ พบหญิงสูงอายุ 1 ราย ทราบชื่อ นางบุญชื่น ศรีสว่าง อายุ 82 ปี เจ้าของบ้าน ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะบวมปูด และพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายพิการเป็นโปลิโอตั้งแต่กำเนิด 1 ราย ทราบว่าเป็นลูกชายของ นางบุญชื่น ทราบชื่อ นายสายันท์ ศรีสว่าง อายุ 54 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นพี่ชายของผู้เสียชีวิต ชาวบ้านช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้ ทราบชื่อ นายอัคฤทธิ์ ศรีสว่าง อายุ 44 ปี พบอยู่ในอาการมึนเมา รับสารภาพว่าได้ใช้กระถังสีเปล่าตีพี่ชายจนเสียชีวิต และใช้ไม้เท้าตีหัวแม่จนได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยังให้การวกวน เจ้าหน้าที่ต้องรอสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

จากการสอบถาม น.ส.สำเนียง เอี่ยมยิ้ม อายุ 48 ปี เพื่อนบ้าน ทราบว่า ครอบครัวนี้อยู่กัน 3 คน มีแม่อายุมากแล้ว และคนตายคือลูกชายคนโต ส่วนผู้ก่อเหตุงานการไม่ค่อยทำ ติดสุราอย่างหนัก เมาแล้วก็ชอบอาละวาด คนแถวนี้เห็นเป็นประจำ ส่วนใหญ่ก็สงสารคอยนำอาหารแวะเวียนมาแบ่งปันให้ เพราะแม่ทำงานไม่ไหว คนตายก็พิการเป็นโปลิโอตั้งแต่กำเนิด บ่อยครั้งที่ผู้ก่อเหตุมักจะใช้ให้พี่ชายที่เป็นโปลิโอไปซื้อของให้บ่อยๆ ทั้งซื้อเหล้าและอย่างอื่น บางครั้งคนตายซื้อมาผิดเพราะสมองเขาพิการ ก็ถูกทำร้ายเป็นประจำ เพื่อนบ้านก็เอือมระอา เวลาเมาก็มักจะอาละวาดทุบตีพี่กับแม่ ทำลายข้าวของ แต่วันนี้ได้ยินเสียงคนเป็นแม่ร้องเสียงดังมากผิดปกติก็เลยเดินมาดูก็พบว่าได้รับบาดเจ็บหัวบวมปูด ผู้ตายตอนนั้นยังหายใจรวยรินอยู่ แต่พอเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะถึงก็พบว่าก็เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนตัวผู้ก่อเหตุก็สภาพเหมือนเมาพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน จนเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมไว้ได้ และพูดเพียงว่าใช้กระถางตีพี่ชายไป 1 ครั้ง แล้วพี่ชายตกจากโต๊ะ ส่วนแม่ก็มาด่าตนว่าตีพี่ชายทำไม โมโหก็เลยคว้าไม้เท้าฟาดหัวแม่ไป 2 ครั้ง ก็ไม่คิดว่าพี่ชายจะตาย แถมยังพูดทิ้งท้ายว่า ถ้าเข้าคุกแล้วจะไปกินเหล้าที่ไหนได้.