เมื่อวันที่ 5 ก.พ. นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรได้นำนโยบายอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวเพื่อรับการเปิดประเทศ โดยไม่ค้นตัวนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย แม้ว่ามีของติดตัวที่มีมูลค่าสูงก็ตาม เพื่อไม่สร้างภาระให้กับนักท่องเที่ยว แม้ว่านักท่องเที่ยวรายนั้น จะสะพายกระเป๋าหรูราคาแพงมูลค่าหลายแสน หรือสวมนาฬิกาหรูที่มูลค่าสูงหลายล้านก็ตาม หากเป็นการสวมใส่ เพื่อใช้เป็นส่วนตัว หรือเป็นของใช้ส่วนตัว ไม่ได้นำเข้าเพื่อการค้าเชิงพาณิชย์ เช่น ไม่ได้ใส่กล่องมา เป็นต้น ก็ไม่มีการตรวจค้น เพราะหากไม่มีข้อมูลบ่งชี้ชัดเจน แล้วไปจับค้นทุกคนถือว่าไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้ การขอค้นตัวนักท่องเที่ยวของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร จะดำเนินการกรณีที่มีข้อมูลทางลับที่แจ้งให้ทราบว่า มีการลักลอบนำเข้า หรือกรณีที่มีการแสดงอย่างชัดเจนว่าไม่ใช่เป็นของติดตัว เช่น สวมนาฬิกาหลายเรือนบนข้อมมือ เป็นต้น ทั้งหมดต้องคำนึงถึงความเหมาะสม หากไปตรวจค้นนักท่องเที่ยวโดยไม่มีเบาะแสมาก่อน ย่อมส่งผลต่อมุมมองที่ไม่ดีต่อตัวเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน

นายพันธ์ทอง กล่าวว่า กรมศุลกากรเน้นอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารด้วยระบบบริหารความเสี่ยง มาใช้ในการคัดเลือกตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร กรณีการตรวจสัมภาระผู้โดยสารขาเข้าที่ช่องมีสิ่งของต้องสำแดง หรือ ช่องแดง กรณีที่ 1 เป็นของติดตัวผู้โดยสาร ซึ่งไม่มีลักษณะเป็นเชิงการค้าและมีมูลค่าไม่เกิน 2 แสนบาท เจ้าหน้าที่ศุลกากร จะคำนวณค่าภาษีอากรปากระวาง ขณะที่กรณีที่ 2 เป็นของต้องห้าม และหรือต้องกำกัดที่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำเข้าต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ในวันจันทร์ที่ 6 ก.พ.นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ได้จัดพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ กรุ๊ปแรก ประมาณ 140 คน จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่สนามบินดอนเมือง หลังจากรัฐบาลจีนได้อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวขายแพ็กเกจทัวร์ออกนอกประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. เป็นต้นไป โดยเที่ยวบินแรกที่เข้ามาคือ สายการบินสปริงแปร์ไลน์ เที่ยวบิน 9C741 เส้นทางนครกว่างโจว-กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) เดินทางถึงไทยในเวลา 08.45 น. โดยมี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. และนายหยาง ซิน อุปทูตรักษาการแทนเอกอัคราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย และแขกเชิญวีไอพี ร่วมให้การต้อนรับ มอบพวงมาลัยดอกไม้สดและมอบของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวด้วย

นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า หนึ่งในกลยุทธ์ในการกระตุ้นตลาดจีน คือ การขยายช่องทางการเดินทางเข้าไทย โดยทางอากาศจะเน้นผลักดันการเชื่อมต่อเที่ยวบินเชื่อมโยงเมืองหลัก และเมืองรอง ระหว่างไทย-จีน และการสนับสนุนชาร์เตอร์ไฟลต์เข้าไทย ซึ่งภาพรวมในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ มีจำนวนเที่ยวบินเข้าไทย 2,301 เที่ยวบิน จำนวนที่นั่ง 314,115 ที่นั่ง อีกทั้ง สายการบินมีแผนเพิ่มเส้นทางบิน คาดว่าจะเพิ่มที่ 20% ซึ่งคาดว่าจะมีที่นั่งรวมในไตรมาสแรกประมาณ 344,446 ที่นั่ง อัตรการบรรทุกเฉลี่ยอยู่ที่ 85% ททท.จึงคาดว่าในช่วงไตรมาสแรกปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยราว 320,397 คน.