จากกรณี สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ นัดขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ (คดีหมายแดงที่ ผบ.2123/2561 และ ผบ.2124/2561) ภายหลังพบว่า ราคาประมูลรวมจบที่ 3,594.62 ล้านบาท ซึ่งผู้ชนะคือ บริษัท IThermal มีการวางเงินมัดจำไว้แล้ว 150 ล้านบาท ตามสัญญาทางผู้ชนะประมูลต้องนำเงินชำระให้แก่เจ้าพนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ ภายใน 15 วัน เป็นจำนวนเงิน 3,444.62 ล้านบาท ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ประมูล ‘ดาราเทวี-เชียงใหม่’ จบที่ 3.59 พันล้าน จับตาผู้ชนะหาเงินจ่ายภายใน 15 วัน

เมื่อวันที่ 8 ก.พ. น.ส.เยาวลักษณ์ ฤิทธิสมจิตต์ ผู้ถือหุ้น บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) เปิดเผยว่า ในฐานะที่ IFEC เป็นบริษัทแม่ของ บริษัท โรงแรมดาราเทวี จำกัด ซึ่งเดิมเป็นเจ้าของกิจการ โรงแรมดาราเทวี จังหวัดเชียงใหม่ เห็นว่า ทางบริษัท I Thermal เคยชนะประมูลโรงแรมมาแล้วครั้งแรก โดยเคาะราคาไปมากถึง 2,012.62 ล้านบาท แต่กลับไม่นำเงินมาชำระตามสัญญา ทำให้สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ริบเงินประกันจำนวน 110 ล้านบาท ในวันที่ 3 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา จนกระทั่งมีการประมูลรอบที่ 2 ผลปรากฏว่า บริษัท I Thermal ชนะการประมูลหลังจากเสนอราคาสู้กับ บริษัท เมฆสวัสดิ์ (ประเทศไทย) ถึง 69 ครั้ง โดย I Thermal ได้เสนอราคาซื้อทรัพย์สินฯ รวม 3,594.62 ล้านบาท สูงกว่าเดิมาถึง 1,582 ล้านบาท ทำให้ทุกฝ่ายจับตามองว่า บริษัทฯ ผู้ชนะประมูลจะสามารถหาเงินมาจ่ายได้หรือไม่

น.ส.เยาวลักษณ์ กล่าวอีกว่า ถ้าหาก บริษัท IThermal ยังไม่มีความพร้อมในการชำระเงิน ตามกำหนดวันที่ 13 ก.พ. 2566 ก็จะต้องถูกริบเงินอีก 150 ล้านบาท แย่ที่สุดคือ โรงแรมดาราเทวี ต้องถูกนำมาประมูลขายเป็นครั้งที่ 3 เกิดความเสียหายนับ 1,000 ล้านบาท จากราคาขายที่ต้องตกไปอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท โดยเรื่องนี้ตนอยากให้ทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งมีบทบาทในการตรวจสอบผู้ประมูล ควรออกมาให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย

ด้าน นายประสิทธิ วงศ์ศาสวัสดิ์ ทนายความ กล่าวว่า หากวันที่ 13 ก.พ. 2566 บริษัท I Thermal ยังไม่สามารถชำระเงินประมูลส่วนที่เหลือได้ ในมุมของกฎหมาย เจ้าหนี้ หรือบุคคลที่มีส่วนได้เสียจากการซื้อขายครั้งนี้ ถ้าเจ้าพนักงานคดีมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาในการวางเงินตามที่ร้องขอ ผู้มีส่วนได้เสียต้องมีการยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานคดี ในส่วนของผู้ถือหุ้นที่ได้มีการเข้าร่วมและได้ให้อำนาจในการฟ้องร้องแทนผู้หุ้นอื่น ๆ มีจำนวน 50 ราย มูลค่าสัดส่วนหุ้นอยู่ที่กว่า 100 ล้านบาท.