เมื่อวันที่ 11 ก.พ. นายไพฑูรย์ พงษ์ชวลิต รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อออนไลน์ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความจากประชาชนที่ขับรถยนต์ผ่านบริเวณถนนพระรามที่ 2 โดยระบุว่า ถูกน้ำปูนกระเด็นใส่รถเป็นคราบทั้งคัน วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบผู้เสียหายนั้น

ทล. รับทราบถึงปัญหาดังกล่าวและได้เร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขอเรียนชี้แจงว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระรามที่ 2) เมื่อวันที่ 10 ก.พ.66 เวลา 21.00 น. ณ พื้นที่โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 (M82) สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ตอนที่ 2 ที่ กม.23 จ.สมุทรสาคร โดยมี บริษัท กิจการร่วมค้ากรุงธนไทย จำกัด ผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ

นายไพฑูรย์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ พบว่า สาเหตุเกิดขึ้นในช่วงเวลาการเตรียมงาน เพื่อเจาะเสาเข็ม เวลา 22.00-05.00 น. โดยในเวลาประมาณ 20.30 น. ผู้รับจ้างพบว่าสารละลายพยุงหลุมเจาะที่ปากหลุมเจาะพร่องลง จึงทำการเติมสารละลายดังกล่าวเข้าหลุมเจาะเพื่อป้องกันผนังหลุมพัง ในขณะนั้นข้อต่อท่อส่งสารละลายเกิดหลุดออก ทำให้ของเหลวบางส่วนไหลออกนอกพื้นที่ลงสู่ถนน หลังจากเกิดเหตุผู้รับจ้างได้ดำเนินการปิดวาล์วท่อส่งสารละลายทันที แต่เนื่องจากขณะเกิดเหตุอยู่นอกเวลาการปฏิบัติงานก่อสร้างที่กำหนดตามมาตรการความปลอดภัย และบริษัทฯ ไม่ได้แจ้งให้ผู้ควบคุมงานทราบว่าจะมีการเติมสารละลายพยุงหลุมเจาะ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ทันท่วงที ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบต่อทรัพย์สิน

จากกรณีดังกล่าววันนี้ (11 ก.พ.66) ได้มีการประชุมร่วมระหว่างผู้บริหาร ทล. และผู้แทนบริษัทรับจ้างดำเนินการที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปและกำหนดมาตรการอย่างรัดกุมมิให้เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำอีก ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่วมกันพิจารณาลงโทษผู้ควบคุมงานสังกัด ทล. จำนวน 2 นาย และสั่งการให้ผู้รับจ้างดำเนินการรับผิดชอบเยียวยาผู้เสียหายโดยเร่งด่วน และเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยในพื้นที่โครงการระหว่างการก่อสร้าง ดังนี้

นายไพฑูรย์ กล่าวอีกว่า 1.มาตรการที่ใช้ป้องกันและลดผลกระทบจากการก่อสร้าง โดยงานเสาเข็มเจาะและการเทคอนกรีตเสาเข็ม กำหนดการทำงานเวลา 22.00-05.00 น. ชึ่งเป็นช่วงเวลาที่ได้มีการปรับการจราจรในช่องทางหลักให้ไปใช้ทางขนาน เพื่อลดความใกล้ชิดระหว่างการจราจรและเครื่องจักรขนาดใหญ่ โดยจะมีผลกระทบต่อผู้ใช้เส้นทางน้อยกว่าในช่วงเวลากลางวัน ทั้งนี้หากมีการเข้าพื้นที่นอกเวลากำหนดให้ผู้รับจ้างแจ้งต่อผู้รับผิดชอบโครงการฯ ล่วงหน้าอย่างเคร่งครัด และ งานก่อสร้างอื่น ๆ ที่ต้องมีการใช้เครื่องจักรหนัก ในเบื้องต้นกำหนดให้ทำงานในช่วงเวลา 22.00-05.00 น. และอยู่ระหว่างการสร้างระบบมาตรการป้องกันอันตรายให้รัดกุมกว่าปกติ แล้วจึงจะพิจารณาผ่อนปรนช่วงเวลาทำงานต่อไป

2.กำหนดให้มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและควบคุมการทำงานในบริเวณที่ใกล้ชิดกับการจราจรอย่างเคร่งครัด เน้นจุดที่ทำงานด้วยเครื่องจักรและจุดที่มีความเสี่ยงอันตรายต่อผู้ใช้เส้นทาง และ 3.หากประชาชนต้องการเเจ้งเหตุหรือร้องเรียน สามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 06-3192-1586 เพื่อความรวดเร็วในการประสานงานช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาในพื้นที่โครงการก่อสร้างฯ

ทล. ขออภัยในความไม่สะดวกเป็นอย่างสูง และได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนและรัดกุม เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับความปลอดภัยสูงสุด