จากกรณีเด็ก 8 เดือน หายปริศนา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 66 เวลา 07.30 น.วันนี้เข้าสู่วันที่ 14 เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่พบเด็กที่หายไป หรือ หลักฐานอะไรที่จะสามารถนำสู่การจับตัวผู้ก่อเหตุได้ ขณะนี้ตำรวจพุ่งเป้าไปที่ชายสติไม่ดี ชาวบ้านเกรงตำรวจจะจับแพะ เพื่อปิดคดี เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า จะมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ลงมาดูพื้นที่ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 19 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ พุ่งเป้าไปที่ นายหรั่ง ชายสติไม่ดี หลังมีนางล้อม ซึ่งมีบ้านอยู่ห่างจากมี่เกิดเหตุประมาณ 2 กม. อ้างเห็นชายคนดังกล่าว ปั่นรถจักรยาน มีเด็กอยู่ตะกร้าหน้ารถ ปั่นจักรยานสวนกัน และมีเด็กร้อง แต่ตนรีบจะไปทำงานจึงไม่ได้สนใจ หลังรู้ข่าวในชุมชนมีเด็กหาย จึงได้แจ้งกับผู้นำชุมชนให้มาตรวจสอบ

จากการสอบถาม แม่เด็ก 8 เดือน เล่าให้ฟังว่า ส่วนตัวยังไม่มั่นใจที่นางล้อมมาเล่าให้ฟัง เป็นเพียงลักษณะคล้ายๆ กัน ส่วนเรื่องของนายหรั่ง ที่ผ่านมา เขาก็ไม่เคยเข้ามาเล่นกับน้อง มาซื้อของก็อยู่แค่หน้าบ้าน ส่วนตัวว่าเขาไม่น่าจะเอาไป หากเอาไปจริงคนก็ต้องเห็น คนแถวนี้รู้จักนายหรั่งทุกคน

เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้ามาสอบสวนนายหรั่ง นำตัวไปดูรถจักรยานที่นายหรั่งใช้ประจำ แต่ไม่ตรงกับที่นางล้อมแจ้ง จักรยานมีตะกร้า แต่รถของนายหรั่งไม่มีตะกร้า

จากการสอบถามชาวบ้านในชุมชนคนส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า กลัวจับแพะ จับคนสติไม่ดีไปเป็นผู้ต้องหา ที่สำคัญ นายหรั่งพูดไม่รู้เรื่อง จะเอาคำพูดของคนสติไม่ดีเป็นเป็นหลักฐานในการคลี่คลายคดี ที่สำคัญ คนก่อเหตุจะลอยนวล ยิ้มสบายใจ จึงอยากให้ตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนจะดำเนินคดี เมื่อ 2 วันก่อน มีตำรวจบางนาย ให้นายหรั่งถือเสื้อสีเหลืองถ่ายรูป ทั้งที่เสื้อเหลือง เพิ่งมีคนให้นายหรั่งมา และวันนี้ ยังมีคนเอาตะกร้าหน้ารถจักรยานมาให้นายหรั่งถือและถ่ายรูป

ด้าน พี่สาวนายหรั่ง วัย  43 ปี กล่าวกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตา ว่า น้องชายไมได้เอาไปแน่ ส่วนที่แหล่งข่าวบอกว่า นายหรั่งเอาเด็กใส่ตะกร้าไปนั้น ยืนยันรถน้องชายไม่มีตะกร้าแน่นอน รถคันนี้ น้องชายใช้มานานแล้ว ส่วนเสื้อสีเหลือง ตนเป็นคนให้น้องชายเอง ให้หลังเกิดเหตุแล้ว มีคนเขาให้ตนมา ตนก็นำมาให้น้องชาย มีแต่บางครั้ง ปาหินใส่รถ ใส่บ้านคนอื่น ตนก็ค่อยๆ บอก อย่าทำ วันนี้หลายคนพุ่งเป้าไปที่น้องชาย ตนรู้สึกเสียใจมาก มากล่าวหาน้องชาย ที่ผ่านมา น้องชายไม่เคยเข้าไปเล่นกับเด็กที่หายไปเลย.