จากกรณีผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว จ.กระบี่ ได้บันทึกภาพนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2 คน กำลังขี่เรือเจ็ตสกี 2 ลำ อยู่ที่บริเวณอ่าวไร่เลและหมู่เกาะห้อง สร้างความไม่สบายใจแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและประชาชนชาวกระบี่ ที่พบเห็น เนื่องจากเป็นการกระทำผิดประกาศของจังหวัด เรื่องกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ห้ามกระทำการหรือประกอบกิจกรรม การเล่นเรือสกู๊ตเตอร์ การเล่นเจ็ตสกีหรือการเล่นเรือลากทุกชนิด และเตียงร่มชายหาดสาธารณะ เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายจังหวัด ที่เน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ไม่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ถือปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ก.พ. เจ้าหน้าที่เจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ ลงพื้นที่ อ่าวแหลมป่อง ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ หลังจากตรวจสอบทราบว่า เจ็ตสกีทั้งสองลำลอยลำอยู่บริเวณดังกล่าว พบนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย อายุ 47 ปี พร้อมภรรยา รับว่าเป็นผู้ขี่เจ็ตสกีทั้งสองลำเมื่อวานนี้ เนื่องจากไม่ทราบว่า พื้นที่ทะเลกระบี่ ห้ามขี่เจ็ตสกี และจากตรวจสอบพบว่า เจ็ตสกีทั้งสองลำจดทะเบียนถูกต้องที่เมืองพัทยา

ต่อมาเจ้าหน้าที่เชิญตัวนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ราย ไปที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ ทำการเปรียบเทียบปรับ ลำละ 1 หมื่นบาท ฐานความความผิด ใช้เจ็ตสกีข้ามเขตที่ได้รับอนุญาต กรณีฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมสิ่งแวดล้อม จ.กระบี่ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ได้เดินทางมาจากเมืองพัทยา โดยขับรถยนต์ชักลากเจ็ตสกี เดินทางมาท่องเที่ยวที่ภาคใต้ ผ่านจังหวัดที่มีทะเล และได้นำเจ็ตสกีลงทะเลขี่เล่นตลอดเส้นทาง จนกระทั่งเดินทางมาถึงอ่าวบ้านแหลมป่อง จ.กระบี่ จึงได้นำเจ็ตสกีลงทะเลขับขี่เล่นตามปกติ โดยไม่ทราบว่าผิดกฎของจังหวัด.